เปิดคลังแสง ยุทโธปกรณ์ไทยทำ ในสมรภูมิชายแดน ไทย-กัมพูชา

เปิดรายชื่อ อาวุธไทยทำ ในสมรภูมิปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา หลายชนิด เช่น DTI-1G, FPV quadcopter, ATMG ที่ถูกนำมาใช้งานจริงและพิสูจน์ประสิทธิภาพ
เหตุการณ์ปะทะรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในครั้งล่าสุดนี้ ไม่เพียงแต่เป็นบททดสอบความพร้อมของกำลังพลเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น สมรภูมิทดสอบจริง ครั้งสำคัญสำหรับยุทโธปกรณ์ที่พัฒนา และผลิตขึ้นโดยฝีมือคนไทย ซึ่งหลายชนิดได้ถูกนำออกมาใช้งานจริงเป็นครั้งแรก การใช้งานในสถานการณ์จริงนี้ไม่เพียงพิสูจน์ประสิทธิภาพของอาวุธ แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนากองทัพ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในอนาคต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กองทัพไทยได้พยายามส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นเอง ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น สามารถผลิตทดแทนหรือซ่อมบำรุงได้ทันทีโดยไม่ต้องรอสั่งซื้อจากต่างประเทศ สามารถดัดแปลงแก้ไขให้เข้ากับยุทธวิธีของไทยได้อย่างอิสระ และเป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าซึ่งเงินทุนจะหมุนเวียนอยู่ภายในระบบเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโครงการจำนวนมากที่อยู่ในขั้นทดสอบและยังไม่ได้รับการสั่งซื้อเข้าประจำการอย่างเต็มรูปแบบ
กองทัพบกได้นำยุทโธปกรณ์ที่ผลิต และพัฒนาในประเทศเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการเป็นจำนวนมาก ดังนี้
กองทัพบก
ยุทโธปกรณ์ที่ได้รับการยืนยันว่าใช้งานจริง
- รถยิงจรวดหลายลำกล้องและลูกจรวด DTI-1G
- โดรนโจมตีทางยุทธวิธี FPV quadcopter
- ปืนใหญ่อัตตาจร ATMG
- เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มม.
- ลูกยิงลูกระเบิดขนาด 60 มม.
- เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 81 มม.
- ลูกยิงลูกระเบิดขนาด 81 มม.
- เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มม.
- ลูกยิงลูกระเบิดขนาด 120 มม.
- กระสุนปืนเล็กขนาด 5.56 มม.
- กระสุนปืนเล็กขนาด 7.62 มม.
- กระสุนปืนเล็กขนาด 12.7 มม.
- ลูกปืนใหญ่ขนาด 105 มม.
- ลูกปืนใหญ่ขนาด 155 มม.
- รถยนต์บรรทุกขนาดเบา 1 1/4 ตัน
- รถยนต์บรรทุกขนาดเบา 2 1/2 ตัน

ยุทโธปกรณ์ที่มีโอกาสนำมาใช้
- เครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจร ATMM
- ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 40L70 OES
- จรวดอากาศสู่พื้น 2.75 นิ้ว
ยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เนื่องจากอยู่ระหว่างทดสอบ
- ลูกจรวดขนาด 122 มม. DTI-2 (ยิงจากรถยิงจรวดหลายลำกล้อง SR4)
- รถยิงจรวดหลายลำกล้อง D11A
- อากาศยานไร้คนขับตรวจการณ์ DP-20
- อากาศยานติดอาวุธ DP-16
- ระเบิดนำวิถีสำหรับอากาศยานไร้คนขับ AG-001
- หุ่นยนต์ตรวจการณ์ D-Iron RCV
กองทัพเรือ
ยุทโธปกรณ์ที่คาดว่าจะได้ใช้แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน
- เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (PGM)
- เรือตรวจการณ์ปืน (PGB)
- เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (OPV)
ยุทโธปกรณ์ที่อาจจะเตรียมพร้อมเอาไว้
- ยานเกราะ AWAV 8×8
- ยานเกราะ V-150 mod
- ยานเกราะ AAV7 RAM/RS
- ยานเกราะ First Win II
- ปืนใหญ่อัตตาจร ATMG
- โดรนตรวจการณ์ MARCUS-B
ยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เนื่องจากอยู่ระหว่างทดสอบ
- อากาศยานไร้คนขับโจมตี MARCUS-KK
- อากาศยานตรวจการณ์ MARCUS-MH
- อากาศยานตรวจการณ์ D-Eye 02
กองทัพอากาศ
ยุทโธปกรณ์ที่ได้รับการยืนยันว่าใช้งานจริง
- ระเบิดอเนกประสงค์ Mk. 82
ยุทโธปกรณ์ที่มีโอกาสนำมาใช้
- อากาศยานไร้นักบินตรวจการณ์ U1
ยุทโธปกรณ์ที่อาจจะเตรียมพร้อมเอาไว้
- ยานเกราะ First Win ALV
- อากาศยานไร้นักบินตรวจการณ์ M Solar-X
อากาศยานที่ไทยมีส่วนร่วมผลิตหรือปรับปรุงซึ่งอาจจะเตรียมพร้อมไว้
- เครื่องบินโจมตี AT-6TH
- เครื่องบินขับไล่ F-5TH
- เครื่องบินโจมตี Alpha Jet-TH
- เครื่องบินโจมตีธุรการ AU-23TH
ภายหลังการปะทะจบสิ้นลง คาดว่าประชาชนจะมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อกองทัพ และการต่อต้านการจัดหาอาวุธอาจลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกองทัพต้องนำบทเรียนจากสนามรบครั้งนี้มาทบทวน เพื่อพิจารณาจัดหาอาวุธที่เหมาะสมและเป็น Game Changer ได้จริง โดยควรให้ความสำคัญกับอาวุธที่ผลิตในประเทศซึ่งได้พิสูจน์ประสิทธิภาพแล้ว เช่น ระบบจรวดหลายลำกล้อง DTI-1G และผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการทดสอบให้เข้าประจำการโดยเร็ว
ที่มา: thaiarmedforce.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองทัพอากาศ แจงส่ง กริพเพ่น เข้าสนับสนุนภาคพื้นดิน เน้นทำลายคลังอาวุธ
- สรุปไทม์ไลน์ “เขมรลอบกัด” ละเมิดหยุดยิงหนที่ 2 โจมตีภูมะเขือ-ช่องอานม้า
- กองทัพบก ประณาม กัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โจมตีหลังเที่ยงคืน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: