แพทย์ไต้หวันเผยเคสผู้ป่วยหนุ่ม ยันไม่ได้กินเค็ม แต่ติดชานมไข่มุกอย่างหนัก จนไตทำงานหนักเกินรับไหว แถมยังเป็นสาเหตุ 46% ของผู้ป่วยไตวายในไต้หวัน
กลายเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสายหวาน เมื่อล่าสุดมีรายงานเคสผู้ป่วย ชายชาวจีนวัยเพียง 20 ปี ที่ต้องเผชิญกับภาวะไตวายระยะที่ 4 อย่างไม่คาดคิด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สาเหตุสำคัญมาจากการบริโภคเครื่องดื่มยอดนิยมชนิดหนึ่งมากเกินไป
กรณีผู้ป่วยรายนี้ถูกเปิดเผยโดย ดร. หง วิ่งเสียง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต จากโรงพยาบาลทัมฉวนเจเนอรัล (ไต้หวัน, จีน) ผ่านรายการสุขภาพ Good Morning Health โดยระบุว่า จากผลการตรวจร่างกายพบว่าผู้ป่วยมีปริมาณโปรตีนในปัสสาวะสูงกว่าปกติ และมีอัตราการกรองของไต (GFR) อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งวินิจฉัยได้ว่าเป็น ภาวะไตวายระยะที่ 4
ผู้ป่วยหนุ่มรายนี้ได้ให้ข้อมูลว่า เขาไม่มีพฤติกรรมการกินเค็มเลย แต่กลับมีนิสัย ดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำ ประมาณ 4-5 แก้วต่อสัปดาห์
ดร. หง วิ่งเสียง ได้อธิบายประเด็นที่น่าสนใจนี้ว่า “หลายคนเชื่อว่าการกินเค็มจะนำไปสู่ความดันโลหิตสูง เพิ่มภาระให้ไต และทำร้ายไตในที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่างชานมไข่มุกมากเกินไป ก็สามารถทำลายไตได้มากไม่ต่างจากการกินเค็มเลย”
นายแพทย์ หง อธิบายกลไกต่อไปว่า การดื่มเครื่องดื่มหวานจัดเป็นประจำจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) ซึ่งจะบีบให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกำจัดน้ำตาลส่วนเกินออกจากเลือด หากสภาวะนี้ดำเนินไปเป็นเวลานาน จะเป็นการเพิ่มภาระให้ไตอย่างมหาศาล จนทำให้ไตค่อยๆ อ่อนล้าและเสื่อมสภาพลง
นอกจากนี้ การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปยังก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็จะนำไปสู่การทำลายหลอดเลือดและระบบประสาท รวมถึงหลอดเลือดฝอยในหน่วยไต และเป็นสาเหตุของภาวะไตวายในที่สุด
“ผู้ป่วยภาวะไตวายที่ต้องฟอกไตในไต้หวัน ประมาณ 46% มีสาเหตุมาจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน” ดร. หง วิ่งเสียง กล่าว
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของแพทย์ ผู้ป่วยหนุ่มวัย 20 ปีก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเครื่องดื่มหวาน ๆ ที่ดื่มเป็นประจำจะสามารถสร้างความเสียหายต่อไตได้อย่างรุนแรงถึงเพียงนี้
2 นิสัยง่ายๆ ที่ช่วยปกป้องไตของคุณ
จากกรณีผู้ป่วยรายนี้ ดร. หง วิ่งเสียง ได้แนะนำให้ทุกคนสร้างนิสัยที่ดีเพื่อปกป้องสุขภาพไต ดังนี้
1. ควรเพิ่มการบริโภคอาหารที่มีกากใยสูง, จำกัดอาหารที่มีไขมันและเกลือสูง และที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินความจำเป็น
2. อวัยวะส่วนใหญ่ของร่างกายต้องการน้ำเพื่อรักษาการทำงาน รวมถึงไต การดื่มน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะไม่เพียงพอ ขัดขวางกระบวนการกำจัดของเสีย และเพิ่มภาระให้ไตโดยตรง โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใหญ่สุขภาพดีควรดื่มน้ำ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สพฐ.สั่งย้าย ครูใจโหด ลงโทษเด็กลุกนั่ง 200 ครั้ง จนไตวาย ตั้ง กก.สอบวินัย
- รด.โดนสั่งวิดพื้น 90 ครั้ง จนกล้ามเนื้อสลาย ค่าไตพุ่งทะลุแสน จนเกือบตาย
- เด็กหญิง 6 ขวบ ถูกหามส่ง ICU หลังกินลิ้นจี่เกือบสิบลูก หมอเตือน อันตรายถึงชีวิต
อ้างอิง : SOHA
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
