ทัวร์ลง ‘แซม โจนส์’ อินฟลูฯ สาวนักล่า จับลูกวอมแบตถ่ายคอนเทนต์ แม่วิ่งตามสุดเวทนา ชาวเน็ตจวกยับทารุณสัตว์ องค์กรพิทักษ์สัตว์จี้ตรวจสอบ หากผิดจริงมีโทษปรับสูงสุด 3.5 ล้านบาท
งานเข้า ‘แซม โจนส์’ (Sam Jones) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ซาแมนธา สตราเบิล’ (ZSamantha Strable) อินฟลูเอนเซอร์นักล่าสัตว์ชาวอเมริกัน อ้างตัวว่าเป็นนักชีววิทยาสัตว์ป่าและนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังโพสต์คลิปวิดีโอขณะจับลูกวอมแบต (wombat) ออกมาจากอกแม่ เพื่อถ่ายรูปทำคอนเทนต์ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของสัตว์
ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า แซม โจนส์ วิ่งมาจับลูกวอมแบตข้างถนนในเวลากลางคืน โดยเท้าของลูกวอมแบตห้อยต่องแต่ง และมีสีหน้าหวาดกลัว ขณะที่ชายชาวออสเตรเลียเป็นผู้ถ่ายคลิปและหัวเราะอย่างสนุกสนาน พร้อมกล่าวว่า “ดูแม่มันสิ มันกำลังไล่ตามเธอ!”
เมื่อแม่วอมแบตมายืนอยู่ข้าง ๆ แซม โจนส์ ก็พูดขึ้นว่า “โอเค แม่มันอยู่ตรงนั้นแล้วและก็โกรธมาก ปล่อยมันไปดีกว่า” ขณะที่ผู้ถ่ายคลิปตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก” จากนั้นเธอก็วางลูกวอมแบตลงบนพื้น
จากนั้น โจนส์ ก็หันมายิ้มให้กล้องและชูลูกวอมแบตที่กำลังดิ้นรนและแสดงอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด โดยเธอโพสต์คลิปดังกล่าวลงในอินสตาแกรมส่วนตัว samstrays_somewhere เขียนแคปชั่นในคลิปว่า “การได้อุ้มลูกวอมแบตเป็นความฝันของฉัน” และ “ลูกวอมแบตและแม่ของมัน ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย”
ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่ แต่คาดการณ์ว่าเกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะวอมแบตเป็นสัตว์พื้นเมืองของประเทศ
องค์กรคุ้มครองสัตว์ เผย หากเข้าข่ายผิดกฎหมาย เจอบทลงโทษหนัก
หลังจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น องค์กรที่คุ้มครองและช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย หรือ Wildlife Information, Rescue and Education Service (WIRES) เปิดเผยว่า สัตว์ป่าออสเตรเลียทุกชนิดได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมาย Environment Protection and Biodiversity Conservation Act พร้อมยืนยันว่า การกระทำของอินฟลูเอนเซอร์สาวนั้นผิดกฎหมาย
สำหรับ บทลงโทษสำหรับความผิดเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์จะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 148,237 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 3.5 ล้านบาท สำหรับบุคคลทั่วไป โทษอยู่ที่ 157,298 ดอลลาร์ออสเตรเลีย คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 3.7 ล้านบาท ส่วนนิติบุคคลอาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี
พรากลูกวอมแบตจากอกแม่ ส่งผลเสียอะไรบ้าง?
ขณะเดียวกัน ‘ดร.ทาเนีย บิชอป’ (Dr. Tania Bishop) สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าของ WIRES ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ลูกวอมแบตในวิดีโอน่าจะอายุประมาณ 8 เดือนและยังต้องพึ่งพาแม่ มันควรจะอยู่กับแม่ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย
การพรากลูกวอมแบตออกจากแม่ในวัยที่ยังต้องพึ่งพาอาศัยกัน อาจสร้างอันตรายให้สัตว์ป่าได้ อีกทั้ง แซม โจนส์ ยังจับมันจากด้านหน้าลำตัวอาจทำให้ลูกวอมแบตได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนที่เธอจับลูกวอมแบตแล้ววิ่งมาให้กล้องดู ไม่มีอะไรรองรับร่างกายด้านล่าง ซึ่งวอมแบตเป็นสัตว์ที่มีน้ำหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนหลัง ดังนั้น มีโอกาสที่เธอจะทำให้กระดูกต้นแขนส่วนบนหัก หรือทำให้ไหล่ของมันได้รับบาดเจ็บได้ จากในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าลูกวอมแบตถูกแกว่งไปมาและส่งเสียงร้อง ซึ่งเป็นสัญญาณของการทรมานสัตว์นั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ภายในคลิปยังปรากฏภาพของแม่วอมแบตที่วิ่งไล่ตามเธอข้ามถนนเพื่อมาหาลูกเป็นภาพที่น่าทุกข์ใจอย่างมาก รวมทั้งเป็นการทำให้แม่วอมแบตตกอยู่ในอันตรายเช่นกันเพราะอาจถูกรถชนได้
อย่างไรก็ตาม ดร.ทาเนีย บิชอป ทิ้งท้ายไว้ว่า “การกระทำดังกล่าวนี่เป็นวิธีการปฏิบัติที่ไม่สามารถยอมรับได้ โดยเฉพาะสัตว์ป่าของเรา เพราะตอนนี้ก็เกิดปัญหามากมายอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ วอมแบตเป็นสัตว์ป่ากำลังเผชิญกับภัยคุกคามต่าง ๆ รวมถึงการทำลายที่อยู่อาศัยจากพายุไซโคลนและไฟป่า, โรคภัย, อุบัติเหตุถูกรถชน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ชาวออสซี่เรียกร้องให้ลงโทษอินฟลูฯ สาว อย่างถึงที่สุด
ดร.ทาเนีย บิชอป มองว่า แซม โจนส์ เป็นอินฟลูเอนเซอร์นักล่าสัตว์ อาจจะไม่ค่อยใส่ใจสวัสดิภาพและชีวิตของสัตว์ หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา พร้อมประมาณการกระทำของเธออย่างหนัก เนื่องจากอินฟลูฯ สาวเข้ามาทำคอนเทนต์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของสัตว์ป่า อีกทั้งยังเป็นพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงนิสัยของเธอได้ดีซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายจริง ๆ
ขณะเดียวกัน บางส่วนเข้ามาติพฤติกรรมของเธอว่า “อินฟลูเอนเซอร์พวกนี้เป็นเหมือนปรสิตที่จะทำทุกอย่างเพื่อยอดวิว” รวมทั้งจากคำกล่าวอ้างของเธอที่บอกว่านักชีววิทยาสัตว์ป่า ควรจะเป็นคนตระหนักรู้เรื่องนี้ดีที่สุด ดูเหมือนกระแสดราม่าครั้งนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ เพราะชาวเน็ตบางรายออกมาเรียกร้องให้แบนจากการเดินทางมายังออสเตรเลีย รวมทั้งไม่ออกวีซ่าท่องเที่ยวให้เธอในอนาคต และรุนแรงถึงกระทั่งให้เธอได้รับโทษปรับ จับกุมตัว และเนรเทศ
จากข้อมูลในหน้าโซเชียลมีเดียของแซม โจนส์ พบว่า เธอมักจะโพสต์ภาพส่วนใหญ่จากออสเตรเลียในปี 2024 และยังมีรายงานที่แน่ชัดว่าเธอยังอยู่ในประเทศหรือไม่
แซม โจนส์ ยืนยัน อุ้มลูกวอมแบตอย่างระมัดระวัง ก่อนปล่อยกลับหาแม่
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น แซม โจนส์ ได้เปลี่ยนบัญชีอินสตาแกรมสาธารณะของเธอที่มีผู้ติดตามมากกว่า 92,000 คน เปลี่ยนเป็นบัญชีส่วนตัวในวันพุธที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งบัญชี TikTok ก็เปลี่ยนเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะลบวิดีโอ เธอได้ตอบโต้กระแสวิจารณ์บนอินสตาแกรม ระบุว่า “สำหรับทุกคนที่กังวลและไม่พอใจ ลูกวอมแบตถูกอุ้มอย่างระมัดระวังเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น แล้วก็ปล่อยกลับไปหาแม่ พวกมันเดินกลับเข้าไปในพุ่มไม้ด้วยกัน โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ”
เธอไม่ได้คิดว่าจะจับมันได้ตั้งแต่แรก เพียงแต่ใช้โอกาสนี้ในการชื่นชมสัตว์ที่น่าทึ่งจริง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งเธอไม่เคยจับสัตว์ป่าจนได้รับอันตรายเลย
อย่างไรก็ตาม ดร.ทาเนีย บิชอป ออกมาเตือนว่า แม้ว่าสัตว์ป่าออสเตรเลียจะน่าทึ่ง แต่ควรชื่นชมพวกมันด้วยการถ่ายรูป และไม่มีความจำเป็นที่ต้องจับพวกมันขึ้นมา เพื่อไม่ให้พวกมันตกอยู่ในอันตราย
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องที่ทำให้หลายคนตกใจเพราะอินฟลูฯ สาวมักจะโพสต์ภาพคู่กับสัตว์ที่ตายแล้ว โดยอ้างว่าได้เธอล่าสัตว์พวกนี้ เช่น วิดีโอหนึ่งปรากฏภาพของเธอและเพื่อนกำลังเล่นกับงูในออสเตรเลีย ระบุแคปชั่นว่า “แค่เล่นสนุกกับงูพิษ”
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่เธอจับลูกฉลามขึ้นมาจากมหาสมุทร และอุ้มอีคิดนา (Echidna) หรือตัวกินมดหนาม ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พบได้ในออสเตรเลียและปาปัวนิวกินีเท่านั้น
ข้อมูลจาก : nypost
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยูทูบเบอร์ดัง ยอมทำงานเสริมเป็นยาม ลั่น ดีกว่าทำคอนเทนต์ขยะ
- น้องหญิงไม่รอด สธ.ส่อเอาผิด “คลื่นพลังบุญ” อ้างเทพทำคอนเทนต์ เข้าข่ายหมอเถื่อน
- สาวยื่นฟ้องศาล เพิกถอนการสมรส อ้างถูกสามีหลอกให้แต่ง คิดว่าแค่ทำคอนเทนต์
ข่าวล่าสุด
