ตร.ไซเบอร์ ชี้ OPPO-Realme เป็นผู้พัฒนาแอปฯ กู้เงินเอง โทษปรับ 1-3 ล้านต่อข้อมูล
บช.สอท. เตรียมดำเนินคดีกับบริษัทมือถือ OPPO และ Realme กรณีแอปกู้เงินเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กางข้อกฎหมายชี้บริษัทสินเชื่อโทษหนักปรับ 1-3 ล้านบาทต่อหนึ่งข้อมูล
ถอดเนื้อหาจากการแถลง่ขาววันนี้ (13 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท. เมืองทองธานี) โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้รายละเอียดกรณีแอปพลิเคชันที่มากับระบบปฏิบัติการมือถือของ OPPO และ Realme สองค่ายสมาร์ตโฟนเจ้าดัง
ล่าสุด “ตำรวจไซเบอร์” มีการตรวจสอบพบว่าแอปฯ ดังกล่าวมากับตัวปฏิบัติการคัลเลอร์โอเอส (ColorOS) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ทางค่าย Oppo นำไปปรับแต่งเพิ่มเติมฟีเจอร์และส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface) โดยกำหนดเองและพัฒนาโดยบริษัทของมือถือดังกล่าวใช้พื้นฐานจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่คัลเลอร์โอเอสจะมาคลุมที่แอนดรอยด์อีกชั้นหนึ่งและปรับแต่งรูปแบบแอพพลิเคชันให้แนบเนียนไปกับโทรศัพท์
ทั้งนี้แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 15 ที่เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันพบว่ามีแอปฟินอีซี่ (Fineasy) และ “สินเชื่อความสุข” ติดตั้งมากับโทรศัพท์ค่ายดังกล่าวด้วย โดยติดตั้งมาเองซึ่งผู้ซื้อโทรศัพท์ไม่ได้เป็นคนโหลดติดตั้งมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 13 จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกิน 20,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์ยังไม่ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายในส่วนนี้ แต่หากมีผู้เสียหายก็อยากสอบถามถึงประเด็นการเข้าใช้งานต่างๆ เพื่อพิจารณาว่าเกิดความเสียหายขึ้นหรือไม่ และการเข้าใช้งานแอปฯ เป็นอย่างไร เพื่อทำการพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดอื่นอีกหรือไม่
อย่างไรก็ดีตำรวจไซเบอร์แนะนำวิธีปิดแอปเงินกู้บนมือถือ OPPO และ realme ซึ่ง ณ ปัจจุบันตัวแอป Fineasy จะไม่สามารถถอนการติดตั้งออกจากตัวเครื่องได้ แต่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อปิดการใช้งานและซ่อนออกไปจากหน้าหลักได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
วิธีการปิด แอปพลิเคชัน Fineasy
- เข้าไปที่ “การตั้งค่า”
- เลือกเมนู “แอป”
- เลือกเมนู “การจัดการแอป” และเลือกแอป “Fineasy”
- กด “บังคับให้หยุด” และ “ปิดใช้งาน”
วิธีการปิดการแจ้งเตือน
- เลือกเมนู “จัดการการแจ้งเตือน” และกด “ปิด”
- เลือก “การใช้ข้อมูล” และกด “ปิด”
- เลือก “การใช้เนื้อที่เก็บข้อมูล” พร้อมกดล้างข้อมูลและล้างแคช
วิธีปิดไม่ให้ Fineasy เปิดใช้งานเมื่อแตะ NFC บนมือถือ realme
- เข้าไปที่ “การตั้งค่า”
- เลือกเมนู “แอป”
- เลือกเมนู “สิทธิ์เข้าถึงพิเศษของแอป”
- เลือกเมนู เรียกใช้งาน NFC
- กดที่แอป Fineasy จากนั้นเลือกปิด “อนุญาตให้เปิดเมื่อสแกน NFC”
สำหรับความคืบหน้าทางคดีความนั้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) จะเรียกบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเข้าชี้แจง ว่ามีการดำเนินการอย่างไร ถ้าซอฟต์แวร์เป็นลักษณะมัลแวร์ที่ดูดข้อมูลเองโดยที่เจ้าของไม่ทราบ ก็จะมีความผิดเพิ่มเติมอีก ซึ่งหากมีข้อมูลอ่อนไหวจะมีโทษทางอาญาด้วย
สำหรับข้อมูลที่เก็บไปเป็นข้อมูลพื้นฐาน เป็น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์มือถือ แต่รายละเอียดว่าจะเก็บขนาดไหนนั้นซึ่งปกติในทางเทคนิคการดูดข้อมูล สิ่งที่ต้องการนั้นเรียกว่าข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อ ทั้งนี้สามารถเช็กได้ว่าดึงข้อมูลอะไรบ้างข้อมูลดังกล่าวส่วนใหญ่อ้างว่ามีการเก็บในต่างประเทศ แต่ตาม พ.รบ.คอมพิวเตอร์ ต้องเก็บไว้ในประเทศไทย ซึ่งถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 500,000 บาท ถ้าไม่มีอาจจะต้องเรียกต่างประเทศมาชี้แจง และสามารถเอาผิดในต่างประเทศได้ เนื่องจากมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ข้อมูลดังกล่าวส่วนใหญ่อ้างว่ามีการเก็บในต่างประเทศ แต่ตาม พ.รบ.คอมพิวเตอร์ ต้องเก็บไว้ในประเทศไทย ซึ่งถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 500,000 บาท ถ้าไม่มีอาจจะต้องเรียกต่างประเทศมาชี้แจง และสามารถเอาผิดในต่างประเทศได้ เนื่องจากมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
ส่วนในมุมของบทงลงโทษ นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ระบุ การถอนแอปพลิเคชันนั้นทางผู้ประกอบการทั้ง OPPO-Realme ต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะถ้าข้อเท็จจริงสอบสวนแล้วว่ามีความผิดจริงจะคูณจำนวนวันที่จะละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- OPPO ยกเลิก งานแถลงเปิดตัวมือถือใหม่ เซ่นดราม่าแอปกู้เงิน
- วิธีลบแอปฯ Fineasy บนมือถือ OPPO ทำตาม 5 ขั้นตอนง่าย ๆ
- เหยื่อสินเชื่อความสุข เกือบคิดสั้น แจ้งเตือนให้กู้เงินกว่า 60 เจ้าจนหนี้พุ่ง 7 แสน