พ่อแม่ใจสลายซ้ำสอง ลูกน้อย 8 เดือน ฟื้นคืนชีพกลางงานศพ รีบพาส่งรพ. สุดท้ายจบเศร้า
เศร้าจนแทบใจสลาย ลูกน้อยวัย 8 เดือน ฟื้นคืนชีพกลางงานศพตัวเอง พ่อแม่รีบพาส่งโรงพยาบาล ก่อนเจอกับจุดจบที่แสนเศร้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 8 เดือน ที่ถูกประกาศว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล วันเดียวกันนั้นขณะที่พ่อแม่กำลังจัดงานศพ เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อคนมาร่วมงานเห็นมือน้อยๆ ของทารกขยับ และพอยื่นมือไปแตะ เด็กน้อยกลับคว้านิ้วมือเอาไว้ ก่อนที่ทีมแพทย์ที่อยู่ในงานรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลทันที พบว่ายังมีชีพจร
แต่เมื่อถึงโรงพยาบาล หัวใจกลับหยุดเต้นอีกครั้งและช่วยไม่ทัน สร้างความเศร้าซ้ำสองให้กับคุณพ่อ ด้านตำรวจกำลังตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีความผิดพลาดในการวินิจฉัยหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นได้กล่าวขอโทษครอบครัว พร้อมรับปากจะสรุปผลสอบสวนภายใน 30 วัน
เคียร่า (Kiara) ทารกหญิงชาวบราซิลวัย 8 เดือน ถูกประกาศว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐซานตา คาตารินา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมปีนี้ พ่อแม่จึงจัดงานศพบอกลาลูกสาวในวันเดียวกัน ผู้จัดการงานศพชื่อออเรโอ (Aureo) ได้จัดการศพทันทีหลังจากเด็กเสียชีวิตได้ 2 ชั่วโมง และนำร่างไปยังสถานที่จัดงานศพ
งานศพเริ่มขึ้นหลังจากประกาศการเสียชีวิต 16 ชั่วโมง ขณะที่พ่อแม่กำลังแต่งตัวครั้งสุดท้ายให้ลูก จู่ๆ ก็มีคนสังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อมือน้อยๆ ของทารกขยับ แสดงสัญญาณมีชีวิต สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีแขกในงานลองยื่นมือไปแตะนิ้วมือเล็กๆ ปรากฏว่าเด็กน้อยกำนิ้วมือเบาๆ พยาบาลที่อยู่ในงานรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลทันที ตรวจพบว่ายังมีชีพจรและลมหายใจ และร่างกายยังไม่แข็งตัวเหมือนศพทั่วไป
หลังรีบนำตัวเข้าห้องไอซียู ขณะที่ญาติๆ กำลังลุ้นระทึก หัวใจของเด็กน้อยก็หยุดเต้นอีกครั้ง และถูกประกาศการเสียชีวิตเป็นรอบที่สอง คุณคริสเตียโน พ่อของเด็ก เปิดใจกับสื่อท้องถิ่นด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “พวกเราแทบจะขาดใจ พอมีความหวังนิดนึง สุดท้ายก็ต้องสูญเสียอีก”
โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องกำลังถูกตำรวจสอบสวน โดยทางโรงพยาบาลยอมรับว่า หลังประกาศการเสียชีวิต 16 ชั่วโมง เด็กเคยมีสัญญาณชีวิตกลับมา ก่อนจะเสียชีวิตอีกครั้งหลังส่งโรงพยาบาล ทางการท้องถิ่นได้กล่าวคำขอโทษกับครอบครัว พร้อมรับปากว่าจะสรุปผลสอบสวนภายใน 30 วัน
หลังข่าวแพร่สะพัด ชาวเน็ตแห่วิจารณ์ความผิดพลาดของโรงพยาบาล “บ้าไปแล้ว! ไม่ใช่ต้องตรวจให้แน่ใจก่อนประกาศเหรอ?” “นี่มันฝันร้ายที่สุดของครอบครัวเลย” “โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!” ส่วนบางคนก็ส่งกำลังใจให้ครอบครัว หวังให้ทำใจและผ่านเรื่องเศร้านี้ไปได้
อ้างอิง : www.hk01.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง