ตร. ยันไม่มี VVIP ปฏิบัติเท่าเทียม ตอบ ‘แม่ตั๊ก’ หยิบมือถือโอนเงินให้ใคร?
ตำรวจยืนยันไม่มี VVIP ปฏิบัติกับ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ เท่าเทียมกับผู้ต้องหาทั่วไป ตอบหยิบมือถือโอนเงินให้ใคร หลังโดนสื่อจับพิรุธ?
จากกรณีที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้เข้าจับกุม น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ภายในซอยรามอินทรา 65 พร้อมตั้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน . ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ,ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตามที่มีรายงานไปตามก่อนหน้านี้นั้น
พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก. ปคบ. ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวว่า สำหรับในวันนี้พนักงานสอบสวนก็คัดค้านการประกันตัวให้ทั้งคู่ไปต่อสู้ในชั้นศาล ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในขณะที่นำตัวผู้ต้องหาไปส่งศาล ขอไม่เบียดเสียดหรือเข้าไปใกล้แม่ตั๊ก เนื่องจากเจ้าตัวแจ้งว่ามีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัว ส่วนมีประวัติการรักษาหรือไม่นั้น ทางตำรวจยังไม่ได้ตรวจสอบ
สำหรับประเด็นที่มีคนสนิทของแม่ตั๊ก 2-3 คน ซึ่งเป็นเลขาของแม่ตั๊ก เข้ามากันนักข่าวเพื่อไม่ให้เข้าไปใกล้เจ้านายเขานั้น ทางตำรวจก็เข้าใจได้ เนื่องจากแม่ตั๊กไม่สบาย และทางอีกฝ่ายก็กลัวว่าผู้เสียหายจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย
โดยทางตำรวจเป็นคนร้องขอความช่วยเหลือเอง คิดซะว่าเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะที่ปฏิบัติงาน เพราะเมื่อคืนกำลังของตำรวจมีน้อย ถ้าหากว่าผู้ต้องหาเป็นอะไรในระหว่างที่สอบปากคำทางตำรวจจะแย่
ส่วนประเด็นที่มีภาพหลุดออกไปในโลกออนไลน์ว่าในขณะสอบปากคำแม่ตั๊กหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกนหน้าทำธุรกรรมทางการเงินนั้น ตนไม่ทราบ แต่อีกฝ่ายบอกว่าโอนเงินอยู่ เนื่องจากยังคงต้องเยียวยาและรับผิดชอบผู้เสียหายต่อ วันนี้เขาก็จ่าย จ่ายทุกวัน
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่ากรณี ฉ้อโกงแบบนี้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ในระหว่างที่ถูกจับ สามารถโอนเงินได้หรือไม่นั้น ทางตำรวจแจ้งว่า แม่ตั๊ก ทำธุรกิจมากมาย เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์สินส่วนไหนที่มาจากการฉ้อโกง ซึ่งเราก็จะอายัดเป็นส่วน ๆ ไป แต่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ได้รายงาน ปปง.ไปแล้ว และมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสืบทรัพย์ ซึ่งถ้าพบว่ามีมีความผิดก็จะดำเนินคดีทันที พร้อมยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติกับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ เหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ไม่มีปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษอย่างแน่นอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง