เปิดราคาตั๋วรถไฟ ไทย-ลาว วิ่ง 19 ก.ค. เริ่ม 281 บาท เช็กช่องทางจองที่นี่
รถไฟไทย-ลาว เปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ เริ่ม 19 ก.ค. นี้ ราคาเริ่มต้น 281 บาท
การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศเปิดให้บริการขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) – เวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด) อย่างเป็นทางการ เริ่มให้บริการเที่ยวแรกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 มีรายละเอียดราคาตั๋วโดยสารแบ่งเป็น 2 สาย ดังนี้
ขบวนรถเร็ว 133/134 เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – กรุงเทพอภิวัฒน์
- รถนั่งชั้น 3 พัดลม 281 บาท
- รถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ 574 บาท
- รถนอนชั้น 2 ปรับอากาศ เตียงบน 784 บาท / เตียงล่าง 874 บาท
ขบวนรถเร็ว 147/148 เส้นทางอุดรธานี – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – อุดรธานี
- อุดรธานี – เวียงจันทน์ รถพัดลม 100 บาท / รถปรับอากาศ 200 บาท
- อุดรธานี – หนองคาย รถพัดลม 30 บาท / รถปรับอากาศ 80 บาท
- หนองคาย – เวียงจันทน์ รถพัดลม 70 บาท / รถปรับอากาศ 120 บาท
ตารางเดินรถเที่ยวไป กรุงเทพฯ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) – เวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด)
ขบวนรถเร็วที่ 133 (กรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์)
- ออกจากกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. ถึงเวียงจันทน์ เวลา 09.05 น. (วันรุ่งขึ้น)
ขบวนรถธรรมดาที่ 147 (อุดรธานี – เวียงจันทน์)
- ออกจากอุดรธานี เวลา 16.00 น. ถึงเวียงจันทน์ เวลา 17.55 น.
ตารางเดินรถเที่ยวกลับ เวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด) – กรุงเทพฯ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์)
ขบวนรถเร็วที่ 134 (เวียงจันทน์ – กรุงเทพอภิวัฒน์)
- ออกจากเวียงจันทน์ เวลา 18.25 น. ถึงกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 07.30 น. (วันรุ่งขึ้น)
ขบวนรถธรรมดาที่ 148 (เวียงจันทน์ – อุดรธานี)
- ออกจากเวียงจันทน์ เวลา 09.35 น. ถึงอุดรธานี เวลา 11.25 น.
ช่องทางการจองตั๋วรถไฟกรุงเทพ-เวียงจันทร์
– สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุด 180 วัน) ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ
– ผู้โดยสารจะต้องมีหนังสือเดินทาง (Passport) หรือ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) เพื่อใช้ในการทำพิธีการทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีหนองคาย และเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ก่อนการเดินทางข้ามประเทศ
ประชาสัมพันธ์จาก การรถไฟฯ
ทางด้านของทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย อธิบายว่าการเปิดเส้นทางใหม่นี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการเชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและ สปป.ลาว ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศนี้จะให้บริการทั้งสิ้น 4 ขบวนต่อวัน แบ่งเป็น 2 ขบวนไป-กลับ ระหว่างกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ และ 2 ขบวนไป-กลับ ระหว่างอุดรธานี-เวียงจันทน์ โดยขบวนรถกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ จะประกอบด้วยตู้โดยสารธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม), ตู้โดยสารปรับอากาศ ชั้น 2 และตู้โดยสารนั่งและนอนปรับอากาศ ชั้น 2
ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้ (12 กรกฎาคม 2567) เป็นต้นไป โดยสามารถจองได้สูงสุด 180 วันล่วงหน้า และต้องมีหนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) สำหรับการเดินทางข้ามประเทศ
การรถไฟฯ คาดหวังว่าการเปิดเส้นทางใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในภูมิภาค
“การรถไฟฯ พร้อมเปิดให้บริการ ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ ไทย-สปป.ลาว เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เที่ยวแรก 19 กรกฎาคม 2567 เชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ประเทศ เริ่มจำหน่ายตั๋วแล้วตั้งแต่วันนี้”
“นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย บูรณาการความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว เพื่อขยายการให้บริการขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน และขนส่งสินค้าระหว่างกัน”
“ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความพร้อมแล้วในการเปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศไทย – สปป.ลาว เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์”
“ขบวนแรก ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับเปิดให้ผู้โดยสาร จองตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งเปิดให้บริการไป-กลับ จำนวน 2 ขบวน ประกอบด้วย รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม) 152 ที่ รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 64 ที่นั่ง และรถนั่งและนอนปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 30 ที่นั่ง พ่วงไปกับขบวนรถเร็วที่ 133 นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการเส้นทางอุดรธานี – เวียงจันทน์(คำสะหวาด) – อุดรธานี ไป-กลับ อีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวน/วัน”
“ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุด 180 วัน) ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องมีหนังสือเดินทาง (Passport) หรือ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) เพื่อใช้ในการทำพิธีการทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีหนองคาย และเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ก่อนการเดินทางข้ามประเทศ ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก สมาคมผู้ประกอบการขนส่งที่เวียงจันทน์ ในการจัดรถโดยสารรับ-ส่ง อำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อีกด้วย”
“นายเอกรัชกล่าวว่า การเปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ ไทย-สปป.ลาว ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยอำนวยความความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศแล้ว ยังช่วยยกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางภูมิภาคตามนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาล ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้การรถไฟฯ เป็นกำลังหลักในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศ โดยให้เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในทุกด้านๆ ก่อนที่จะมีเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบ”
“นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนการค้าชายแดนระหว่างไทย -สปป.ลาว ให้มีการขยายตัวมากขึ้น พร้อมกับขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ตามยุทธศาสตร์ “เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวของรัฐบาล โดยขบวนรถ สามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่นอีก ซึ่งจะก่อให้ประโยชน์ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวในอนาคตอีกด้วย”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว โรงแรมเซ็นทารา อยุธยา ที่พัก Pet Friendly วิวหลักล้าน รูฟท็อปบาร์สุดหรู
- ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน จุดกางเต็นท์ยอดฮิตแห่งวังน้ำเขียว
- หยุดโหน ‘สืบ นาคะเสถียร’ ปั่นประแส #saveทับลาน อนุรักษ์ป่า ไม่เห็นหัวคน
อ้างอิง : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย