ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลที่สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังอย่าง ไอโฟน (iPhone) กลายเป็นเหมือนอวัยวะที่ 33 การที่โทรศัพท์มือถือสูญหายหรือถูกขโมยไป อาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาครั้งใหญ่ที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว เพราะนอกจากมือถือจะเป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวแล้ว ยังมีข้อมูลธุรกิจสำคัญ ๆ ธุรกรรมการเงิน ที่อาจรั่วไหลได้ง่าย ๆ ทำให้หลายคนสงสัยว่า หากไอโฟนหาย เราจะใช้เบอร์โทรศัพท์ หรือวิธีอื่น ๆ ในการตามหาได้ไหม?
ในบทความนี้ ทีมงาน The Thaiger จะขอพาคุณผู้อ่านไปสำรวจวิธีการต่าง ๆ สำหรับ ติดตามหมายเลขโทรศัพท์ จากมือถือที่หายไปด้วยการใช้ เบอร์โทรศัพท์และเครือข่ายดาวเทียม เป็นเบาะแส รวมไปถึงขั้นตอนอื่น ๆ ในการรับมือกับเหตุการณ์มือถือไอโฟนสูญหาย เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน และปกป้องข้อมูลสำคัญไม่ให้รั่วไหลสู่มือมิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดีได้
เว็บไซต์หา “ไอโฟน” ด้วยเบอร์โทรศัพท์
ถ้าไอโฟนคู่ใจของคุณหายไป อย่าเพิ่งตกใจไปครับ เพราะปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ช่วยตามหาโทรศัพท์หายด้วยเบอร์โทรแบบง่าย ๆ ไม่ต้องง้อซอฟต์แวร์ให้ยุ่งยาก แถมยังใช้งานฟรีอีกด้วย
1. Scannero
สำหรับเว็บไซต์ Scannero หลายคนการันตีว่า มีฟีเจอร์ที่ช่วยติดตามตำแหน่งโทรศัพท์มือถือได้แบบเรียลไทม์ เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการค้นหา ระบบก็จะแสดงสถานะว่าเปิดหรือปิดเครื่องอยู่ พร้อมกับพิกัดคร่าว ๆ ให้เราพอเห็นเค้าลางว่าไอโฟนของเราอยู่ที่ไหน สามารถทำการค้นหาได้ตามขั้นตอนดังนี้
1.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ > https://scannero.io/th/
1.2 กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ต้องการให้ค้นหา
1.3 เลือกประเทศของหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว
2. Moniterro
มาต่อกันที่เว็บไซต์ Moniterro หนึ่งในผู้ให้บริการค้นหามือถือสมาร์ทโฟน มีฟังก์ชั่นการเช็กข้อความและการโทรของเบอร์ที่ต้องการค้นหา พร้อมกับระบุที่ตั้งเบื้องต้นสำหรับแนวทางการค้นหาให้คร่าว ๆ
2.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ > https://moniterro.app/
2.2 กดสร้างบัญชี > Continue with Google หรือ ลงทะเบียนผ่านอีเมลอื่น ๆ
2.3 กดติดตั้งการใช้งาน
2.4 กรอกหมายเลขโทรศัพท์พร้อมระบุประเทศเพื่อค้นหา
3. mSpy
ปิดท้ายด้วยแอปพลิเคชั่นตามหามือถือสมาร์ทโฟน เอ็มสปาย์ (mSpy) รองรับทั้ง iOS บนมือถือไอโฟน และมือถือระบบปฏิบัติการ Android มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครอบคลุม เช่น การติดตามตำแหน่ง GPS, การตรวจสอบสื่อสังคมและอื่น ๆ ทั้งนี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานอาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับประเภทการค้นหาที่เราต้องการ
3.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ > https://www.mspy.com/th/
3.2 สมัครการใช้งานด้วยการเลือกแผนที่ต้องการ
3.3 กรอกเบอร์โทรศัพท์พร้อมระบุประเทศเพื่อค้นหาได้ทันที
ข้อดี-ข้อเสีย บริการค้นหาด้วยเบอร์โทรศัพท์ผ่านเว็บไซต์ผู้ให้บริการ
ถึงแม้ว่าการตามหาไอโฟนหายด้วยเบอร์โทรผ่านเว็บไซต์จะดูง่ายและสะดวก แต่ก่อนจะตัดสินใจใช้บริการ เรามาชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียกันสักหน่อยดีกว่า เพื่อให้คุณมั่นใจว่าได้เลือกทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณ
ข้อดี
– ใช้งานง่าย ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปฯ หรือติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ กรอกเบอร์โทรศัพท์ ก็เริ่มค้นหาได้ทันที
– เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ถ้ายังไม่รู้ว่าจะตามหาไอโฟนหายอย่างไรดี การใช้เว็บไซต์เหล่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
– เว็บไซต์ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่เติม ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นและนโยบายการใช้งานของแต่ละเว็บไซต์
ข้อเสีย
– ความแม่นยำต่ำ อาจระบุตำแหน่งได้ไม่แม่นยำเท่ากับวิธีอื่นๆ ทำให้ยากต่อการตามหาไอโฟนที่หายไป
– ข้อมูลจำกัด อาจแสดงเพียงสถานะการเปิด/ปิดเครื่องและพิกัดคร่าว ๆ เท่านั้น
– ดูไม่มีความน่าเชื่อถือ บางเว็บไซต์อาจไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัย อาจมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลได้
– ไม่สามารถค้นหาได้ทุกเบอร์เสมอไป ถ้าไอโฟนปิดเครื่อง หรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ก็อาจไม่สามารถระบุตำแหน่งได้
วิธีการตามหา iPhone ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต
หากพูดถึงเทคโนโลยีที่อาจช่วยตามหาไอโฟนคู่ใจ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อระบบ จีพีเอส (GPS), เสาสัญญาณโทรศัพท์ หรือแม้แต่ Wi-Fi กันมาบ้าง แต่รู้ไหมครับว่าแต่ละตัวมีกลไกการทำงานอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไงบ้าง
1. จีพีเอส (GPS – Global Positioning System)
สมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะ ไอโฟน มักจะมาพร้อมกับ “จีพีเอส” คือระบบสำคัญที่ช่วยติดตามตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยการทำงานร่วมกับดาวเทียม ทำให้ระบุตำแหน่งได้แม่นยำสุด ๆ แต่ก็มีข้อแม้ว่าระบบจีพีเอสและการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจะต้องเปิดใช้งานบนไอโฟนของคุณก่อนนะ เช่น มีการเปิดใช้งานฟังก์ชั่น Find My iPhone
2. เซลล์ทาวเวอร์ (Cell Tower Triangulation)
กรณีที่ GPS ไม่พร้อมใช้งานหรือมีปัญหาจนไม่สามารถใช้งานได้ เรายังมีตัวช่วยอีกย่างคือ “เสาสัญญาณโทรศัพท์” (Cell Tower Triangulation) ที่ใช้ข้อมูลจากเสาสัญญาณสามแห่งในบริเวณดังกล่าว เพื่อการคำนวณและค้นหาตำแหน่งมือถือของเรา แต่ความแม่นยำอาจจะสู้ระบบพิกัดจีพีเอสไม่ได้ และประสิทธิภาพยังขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่ใช้ด้วย
3. ไว-ไฟ (Wi-Fi Positioning System – WPS)
อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ คือการใช้เครือข่าย Wi-Fi ในการระบุตำแหน่ง ซึ่งความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับจำนวนและระยะห่างของจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียง ในบริเวณนั้นๆ เช่นกัน
ทั้งนี้ การเลือกใช้วิธีการหามือถือไอโฟนแต่ละเทคโนโลยี ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป จึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความพร้อมของไอโฟนของคุณ แต่ที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมเปิดใช้งานฟังก์ชัน “ค้นหา iPhone ของฉัน” (Find My iPhone) เอาไว้ล่วงหน้า จะได้เพิ่มโอกาสในการตามหาไอโฟนคู่ใจกลับคืนมาได้ง่ายขึ้น
วิธีอื่น ๆ ในการตามหามือถือ “ไอโฟน”
ถ้าลองตามหาไอโฟนด้วยเบอร์โทรหรือเครือข่ายดาวเที่ยมแล้วแต่ยังคว้าน้ำเหลว ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบของ Apple เองก็มีฟีเจอร์เด็ดๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในสถานการณ์คับขันแบบนี้โดยเฉพาะ ดังต่อไปนี้
1. Find My iPhone
สำหรับสาวก Apple ทั้งหลาย คงไม่มีใครไม่รู้จักฟีเจอร์ “Find My iPhone” ตัวช่วยสุดล้ำที่ออกแบบมาเพื่อตามหาไอโฟนหายโดยเฉพาะ แต่ฟีเจอร์นี้ใช้งานง่ายจริงไหม? และได้ผลจริงแค่ไหน? วันนี้เราจะพาคุณไปรีวิวแบบเจาะลึกกันเลย
ข้อดีของ Find My iPhone
ใช้งานง่ายแค่ปลายนิ้ว ข้อดีของ Find My iPhone คือใช้งานง่ายมาก แค่มีอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น หรือเข้าเว็บ iCloud ก็สามารถระบุตำแหน่งไอโฟนที่หายไปได้ทันที แถมยังมีฟังก์ชันเสริมอย่างการล็อกเครื่อง เปิดเสียงเตือน หรือแสดงข้อความบนหน้าจอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตามหา
ส่วนเรื่องความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าไอโฟนของคุณเปิดใช้งาน GPS อยู่ แต่ถ้าอยู่ในอาคาร หรือพื้นที่ที่สัญญาณไม่ดี ก็อาจคลาดเคลื่อนได้บ้าง
ข้อเสียของ Find My iPhone
แม้จะเจ๋งแค่ไหน Find My iPhone ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น ถ้าไอโฟนปิดเครื่อง หรือแบตหมด ก็จะไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ถ้าคนที่เก็บไอโฟนไปปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็จะทำให้การติดตามยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม Find My iPhone เป็นฟีเจอร์ที่ควรค่าแก่การใช้งานอย่างยิ่ง เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการตามหาไอโฟนที่หายไปได้อย่างมาก แต่ก็ควรทำความเข้าใจข้อจำกัดของมัน และอย่าลืมว่าการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าแก้ไขเสมอ การตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และเปิดใช้งานฟังก์ชัน “ล็อกการเข้าใช้งาน” (Activation Lock) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณได้
2. แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไอโฟนหาย… แจ้งความยังไงให้ได้ผล หลังจากลองทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่เจอ การแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม แต่จะแจ้งความยังไงให้ได้ผล? วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝาก
เตรียมตัวให้พร้อม
1. หลักฐานการซื้อ: หาใบเสร็จ กล่อง หรือเอกสารใดๆ ที่ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของไอโฟนเครื่องนั้น
2. ข้อมูลไอโฟน: จดจำรุ่น สี ความจุ IMEI (International Mobile Equipment Identity) ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของเครื่อง หาได้จากกล่อง หรือในเมนู “การตั้งค่า” (Settings) > “ทั่วไป” (General) > “เกี่ยวกับ” (About)
3. ข้อมูลการใช้งาน: พยายามนึกว่าครั้งสุดท้ายที่ใช้ไอโฟนอยู่ที่ไหน เวลาใด
ขั้นตอนการแจ้งความ
1. ไปสถานีตำรวจ: เลือกสถานีตำรวจที่ใกล้บ้าน หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ที่คุณทำไอโฟนหาย
2. แจ้งความ: บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคุณทำไอโฟนหาย พร้อมให้ข้อมูลที่เตรียมมา
3. รับใบแจ้งความ: เจ้าหน้าที่จะออกใบแจ้งความให้คุณเก็บไว้เป็นหลักฐาน
3. ค้นหา “ไอโฟน” จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ
นอกจากฟีเจอร์ “Find My iPhone” และการแจ้งความแล้ว รู้ไหมครับว่าค่ายมือถือก็มีบริการช่วยตามหาไอโฟนหายเหมือนกันนะ! วันนี้เราจะพาไปสำรวจบริการจากค่ายมือถือยอดฮิตในไทย ว่าแต่ละค่ายมีอะไรเด็ดๆ มาเสนอบ้าง
เอไอเอส
- AIS Track & Trace: บริการติดตามตำแหน่งเครื่องหายแบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ myAIS หรือเว็บไซต์ AIS
- AIS Family Tracker: สำหรับลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด สามารถติดตามตำแหน่งสมาชิกในครอบครัวได้
ทรูมูฟ เอช
- True Family Care: บริการติดตามตำแหน่งสมาชิกในครอบครัว และมีฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อออกนอกพื้นที่ที่กำหนด
- True iService: ตรวจสอบ IMEI และสถานะเครื่องได้ผ่านแอปฯ True iService
ดีแทค
- dtac Family Care: คล้ายกับ True Family Care แต่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น การแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย
- dtac Track & Trace: บริการติดตามตำแหน่งเครื่องหายผ่านเว็บไซต์ dtac
คำถามที่พบบ่อย กรณีมือถือไอโฟนสูญหาย/ถูกขโมย
เหตุการณ์ไอโฟนหายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว หลายคนก็มักมีคำถามคาใจ วันนี้เราเลยรวบรวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการตามหาไอโฟนมาให้ พร้อมคำตอบที่ช่วยคลายความกังวลใจ
1. ไม่ได้เปิด Find My iPhone ทำไงดี?
ถ้าเกิดลืมเปิดฟีเจอร์นี้ไว้ก่อนไอโฟนหาย ก็ไม่ต้องตกใจไปครับ ยังมีทางออกอื่น ๆ อย่างการติดต่อค่ายมือถือของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามให้
2. IMEI สำคัญยังไง?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้หมายเลข IMEI ด้วย นั่นก็เพราะว่า IMEI (International Mobile Equipment Identity) เป็นหมายเลขประจำเครื่องของโทรศัพท์มือถือที่มี 15 หลัก เป็นเหมือนเลขบัตรประชาชนของไอโฟนแต่ละเครื่อง ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนและติดตามได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ถ้ารู้ IMEI ไว้ก่อนก็จะยิ่งช่วยให้การตามหาง่ายขึ้น
3. ป้องกันไอโฟนหายได้ไหม?
แน่นอนครับว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” การตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง เปิดใช้งาน Find My iPhone และไม่วางไอโฟนทิ้งไว้ในที่สาธารณะ ก็เป็นวิธีป้องกันเบื้องต้นที่ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายได้
บทสรุป
ถึงแม้ไอโฟนคู่ใจจะหายไป แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหวังเสียทีเดียว เพราะเดี๋ยวนี้มีตัวช่วยมากมายที่พร้อมจะเสริมทัพให้คุณตามหาไอโฟนได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันสุดล้ำอย่าง Scannero, Moniterro หรือ mSpy ที่ช่วยระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ หรือจะใช้ฟีเจอร์ Find My iPhone ของ Apple ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
กรณีลองทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่เจอ ก็อย่าเพิ่งถอดใจไปครับ การแจ้งความกับตำรวจและขอความช่วยเหลือจากค่ายมือถือก็เป็นอีกสองช่องทางที่อาจพลิกสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีข้อมูลสำคัญอย่างหมายเลข IMEI เตรียมพร้อมไว้ให้เจ้าหน้าที่ด้วย รับรองว่าโอกาสตามหาไอโฟนเจอจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนจำไว้ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” การตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง เปิดใช้งานฟังก์ชันค้นหาตำแหน่ง และไม่ลืมสำรองข้อมูลสำคัญๆ ไว้เสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ เป็นของใคร อยู่ที่ไหน ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
- วิธีเช็คว่าใครลงทะเบียน “ซิมการ์ดมือถือ” รวมทุกค่าย เอไอเอส-ทรู-ดีแท
ที่มา : บทความสปอนเซอร์