เป็นไข้ควรกินน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น? วิธีไหนบรรเทาอาการเจ็บคอ มากที่สุด
เมื่อไข้หวัดถามหา การดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการป่วยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำให้ผู้ป่วยหมั่นเช็ดตัว กินยา รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกาย รวมไปถึงการดื่มน้ำที่จะช่วยลดอาการไอ เจ็บคอได้
แน่นอนว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นสำคัญอย่างยิ่ง แต่มีหลายคนเกิดความกังวลว่า แล้วตอนเป็นไข้ควรกินน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดี? และน้ำเย็นจะมีข้อเสียมากกว่ากินน้ำอุ่นอย่างไรกันนะ วันนี้ Thaiger หาคำตอบมาให้แล้ว
เป็นไข้ ควรกินน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น
เมื่อเป็นไข้ แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นมากกว่าน้ำเย็น เนื่องจากน้ำอุ่นช่วยละลายเสมหะ และช่วยให้สบายคอได้มากกว่า ที่สำคัญต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 1.5 ลิตร เพราะตอนไม่สบายร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ น้ำอุ่นยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นและช่วยลดอาการหนาวสั่นได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเจ็บคอหรือระคายเคืองในคออาจเลือกดื่มน้ำเย็นแทนได้ เนื่องจากน้ำเย็นอาจช่วยลดการระคายเคืองได้ดีกว่า
สรุปว่า การดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นตอนเป็นไข้นั้น สามารถทำได้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล หรือจะเป็นน้ำอุณหภูมิห้องก็ได้ ซึ่งไม่มีข้อดี-ข้อเสียที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายแต่อย่างใด
แนะนำว่าหากใครอยากรู้สึกชุ่มคอ สามารถผสมน้ำอุ่นกับน้ำผึ้งมะนาวแล้วจิบระหว่างวัน หรือใครที่รู้สึกคันคอจะเลือกดื่มน้ำเย็นก็ได้เช่นกัน
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้ หายไวในพริบตา
นอกจากกินน้ำแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองในส่วนอื่น ๆ อย่างการกินอาหาร หรือการนอนหลับที่จะช่วยให้ไข้ทุเลาลง ปฏิบัติตามได้ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ร่างกายต้องการพลังงานในการต่อสู้กับเชื้อโรค การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายหายป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากขึ้นเมื่อเป็นไข้ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายลง โดยปกติแล้วเราควรจิบน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว แต่เมื่อเป็นไข้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยการจิบตลอดวัน เพื่อให้ร่างกายอุณหภูมิกลับมาเป็นปกติ
- เช็ดตัวลดไข้
การเช็ดตัวลดไข้เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ โดยนำผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ทั่วร่างกาย โดยเช็ดจากปลายเท้าขึ้นไปยังศีรษะ หลีกเลี่ยงการเช็ดตัวในบริเวณหน้าอกและท้อง เนื่องจากจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น
- รับประทานยาลดไข้
ยาลดไข้มีหลายชนิด ที่นิยมใช้ ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ยาไอบูโพรเฟน ยาแอสไพริน ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรตัดสินใจหาซื้อกินเอง เนื่องจากเราไม่รู้ว่าส่วนผสมของยาตัวไหนทานร่วมกันได้ หรือไม่ได้ อีกทั้งเสี่ยงต่อการได้รับยาเกินขนาด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เน้นผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกาย
- รักษาความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ
แม้ว่าเราจะป่วย รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แต่ต้องอย่าลืมไปอาบน้ำ ชำระเชื้อโรคแบคทีเรียที่อยู่ตามสารคัดหลั่งบนร่างกาย ซึ่งวิธีนี้ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายลงได้เป็นอย่างดี และควรล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากตัวเราไปสู่ผู้อื่นผ่านการสัมผัส
คำแนะนำเพิ่มเติม หากมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ระวังเกิดอาการช็อกจนหมดสติได้
อ้างอิงข้อมูลจาก : โรงพยาบาลศิครินทร์, hfocus
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม