ข่าว

เผยหลักฐานเด็ด มัดตัว “ลุงพล” รอยตัดเส้นผม ตรงกับที่เจอในรถ

ตำรวจงัดไม้เด็ด หลักฐานมัดตัว “ลุงพลไชย์พล วิภา” คดีน้องชมพู่ พบรอยตัดเส้นผมแบบผิดธรรมชาติ ที่พบบริเวณที่เกิดเหตุ ตรงกับเส้นผมในรถของลุงพล สอดคล้องกับคำพิพากษาฉบับเต็ม ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1013/2564

หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1013/2564 สรุปคำตัดสินให้ “ลุงพล” หรือ “นายไชย์พล วิภา” อายุ 47 ปี จำคุกรวม 20 ปี จากความผิดข้อหากระทำ 2 ข้อหา กระทำโดยประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 10 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 โดยปราศจากเหตุอันสมควร 10 ปี

Advertisements

บางตอนของคำพิพากาษ ให้ระบุถึงหลักฐานชิ้นสำคัญ ประกอบการตัดสินคดี ได้แก่ รอยตัดเส้นผม โทรศัพท์ และขอพิรุธหลายอย่าง

สรุปหลักฐาน รอยตัดเส้น ประกอบคำตัดสินจำคุก “ลุงพล”

แม้ว่าก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ได้มีการอัปเดตเกี่ยวกับ ความคืบหน้าของคดีน้องชมพู่หลังจากเกิดเหตุการร์การหายตัวและเสียชีวิตปริศนาในปี 2563 กระทั่งล่าสุดในวันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1013/2564 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร โจทก์ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 1 นายอนามัย วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 2 กับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จำเลยที่ 1 และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น จำเลยที่ 2 โดยมีโจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง

หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ได้จากการตรวจสอบจุดพบศพน้องชมพู่ และภายในรถยนต์ของลุงพล คือ ผลการตรวจเส้นผมที่พบว่าถูกตัดแบบผิดธรรมชาติในที่เกิดเหตุพบร่างเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดยเมื่อตรวจกับเส้นผมที่พบในรถของลุงพล ก็พบว่าตรงกันและยังเป็นเส้นผมที่เกิดจากการถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกันอีกด้วย

คำพิพากษาฉบับเต็มของศาลจังหวัดมุกดาหารพบุว่า ได้พบเส้นผมของผู้ตายหลายเส้นซึ่งมีลักษณะคล้ายถูกของมีคมตัด ทำให้สรุปได้ว่าน้องชมพู่ไม่สามารถใช้ของมีคมตัดผมของตัวเองได้ และจะต้องมีคนร้ายเป็นคนพาไปยังที่เกิดเหตุ

“ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีการตรวจพบเส้นผมผู้ตายหลายเส้นที่มีลักษณะถูกตัดด้วยของแข็งมีคม จึงเชื่อว่า ผู้ตายซึ่งมีอายุเพียง 3 ปีเศษ ไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงบริเวณที่พบศพและใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมของตนเองได้ แต่ต้องมีคนร้ายพาผู้ตายไป”

Advertisements
สรุปคดีน้องชมพู่ ลุงพล เส้นผม 2566
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับคดี

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานสนับสนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในรถยนต์ของลุงพล จนพบกับหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่จะกลายเป็นจุดพลิกผันและมัดตัว ลุงพล นั่นก็คือ เส้นผมจำนวน 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น ๆ ที่มีผลการตรวจสอบทางวิทยศาสตร์ระบุว่า เส้นผมจากที่เกิดเหตุและในรถของ ลุงพล ถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน

“ประการสุดท้าย ภายหลังเจ้าพนักงานตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้าย จึงมีการเข้าตรวจค้นรถยนต์จำเลยที่ 1 พบเส้นผม 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น โดยผลการตรวจสอบทำงวิทยาศาสตร์ประกอบกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญปรากฏว่า เส้นผม 1 เส้น ที่ตกอยู่ในรถยนต์จำเลยที่ 1 มีองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้น ซึ่งตรวจเก็บได้จำกบริเวณที่พบศพผู้ตาย เส้นผมทั้ง 3 เส้น ดังกล่าว จึงถูกตัดในคราวเดียวกัน ด้วยวัตถุของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน เชื่อว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมผู้ตาย แต่ด้วยเหตุที่เส้นผม มีขนาดเล็กมาก จำเลยที่ 1 จึงไม่สังเกตว่ามีเส้นผมผู้ตายเส้นหนึ่งตกอยู่ในรถยนต์ของตน”

หลักฐานคดีน้องชมพู่ ลุงพล โดนจำคุก 20 ปี

ทั้งนี้ จากคำพิพากษาศาลจังหวัดมุกดาหารฉบับเต็ม สรุปแล้วว่า ลุงพล มีความผิดตำมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำ โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตำย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจำกบิดามารดา โดยปราศจำกเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี รวมโทษจำคุกทั้งหมด 20 ปี

สรุปคดีน้องชมพู่ ลุงพล เส้นผม คดีน้องชมพู่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับคดี

“พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตำมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำ โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตำย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจำกบิดามารดา โดยปราศจำกเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี ข้อหาอื่นสาหรับจำเลยที่ 1 ให้ยก และยกฟ้องโจทก์สาหรับจำเลยที่ 2 กับให้จำเลยที่ 1 ชาระค่าสินไหมทดแทนทำงแพ่งให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสอง”

อย่างไรก็ดี ยังไม่ปิดฉากตำนานคดีน้องชมพู่ กับมหากาพย์การหายตัวและเสียชีวิตปริศนา ที่ต่อสู้กันในกระบวนการทางกฎหมายมานานกว่า 3 ปี เสียทีเดียว เพราะนี้ยังเป็นเพียงคำพิพากษาศาลชั้นต้น เชื่อว่าลุงพลต้องประกันตัวมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

แต่ผลจากเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้ความบิดเบี้ยวของสื่อในการเกาะกระแสลุงพลเพียงเพื่อหวังความนิยม จนหลงลืมไปว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับความเป็น ความตาย และการแสวงหาความเป็นธรรมให้กับน้องชมพู่ ต่อโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button