ข่าวข่าวต่างประเทศ

ย่าเลี้ยงหลานสุดช้ำ ตรวจ DNA พบไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แม่เด็กลั่นไม่รู้ใครเป็นพ่อ

เลี้ยงมาเองกับมือ สุดท้ายต้องมารู้ความจริงว่าไม่ใช่หลานแท้ ๆ แต่เพราะรักเลยยังเลี้ยง แม่เด็กลั่นไม่รู้ใครเป็นพ่อ ส่วนฝ่ายชายโร่ฟ้องเรียกค่าเสียใจให้ครอบครัว ขอไม่ส่งเสียอีกต่อไป

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ต่างประเทศรายงาน ข่าวน้ำตาตกในของ “ย่าเฉิน” วัย 50 ปี ในเขตหลัวเจียง เมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ที่แค่จะพาหลานไปตรวจ DNA เพื่อเอาใบรับรองเข้าเรียน แต่ได้มารู้ความจริงว่าเด็กหญิงที่ประคบประหงมมา 5 ปี ไม่ใช่หลานตัวเอง

“เสี่ยวหัว” คือหลานสาวคนละสายเลือดของเธอ ที่ไม่สามารถยื่นขอทะเบียนบ้านเพื่อไปโรงเรียน เนื่องจากเป็นลูกนอกสมรส โดยย่าเล่าว่า “อาฟาง” ลูกสะใภ้ของเธอท้องก่อนแต่งกับลูกชายที่ชื่อว่า “อาเฉียง” ในปี 2561 แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แค่หมั้นหมายกันไว้

ย่าสุดช้ำ หลานสาวสุดรักตรวจ DNA พบไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ไม่รู้ใครพ่อเด็ก

หลังจากอาฟางคลอดเสี่ยวหัวทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำงานต่างเมือง ย่าเฉินจึงรับหน้าที่ดูแลหลานคนนี้ตลอด 5 ปี เมื่อถึงวัยเข้าเรียนจึงให้เสี่ยวหัวกับอาเฉียงตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นพ่อลูก หวังยื่นชื่อหลานเข้าทะเบียนบ้าน แต่พอรู้ความจริงทุกคนก็รู้สึกเสียใจ

ความลำบากตกอยู่ที่ย่าเฉินซึ่งรายได้ไม่มั่นคง เป็นหม้ายมา 2 ปี แต่ละเดือนมีรายรับจากค่าเลี้ยงดูที่ลูกชายและลูกสะใภ้หามาให้ แต่พอรู้ว่าเสี่ยวหัวไม่ใช่ลูก อาเฉียงก็ปฏิเสธที่จะเลี้ยงต่อและติดต่อแม่เด็กก็ไม่ได้

อาเฉียงขึ้นโรงฟ้องศาล ข้อหาหาอาฟางหลอกลวงและขอค่าชดเชยที่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเสี่ยวหัวตลอด 5 ปี ค่าชดเชยทางจิตใจ รวมเงิน 300,000 หยวน หรือประมาณ 1,502,000 บาท

ย่าสุดช้ำ หลานสาวสุดรักตรวจ DNA พบไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ไม่รู้ใครพ่อเด็ก

โดยศาลประชาชนเขตหลัวเจียง เมืองฉวนโจว สั่งให้อาฟางจ่ายค่าเลี้ยงดู ค่ารักษาพยาบาล ค่าตรวจ DNA และค่าเสียหายทางจิตของป้าเฉิน รวมเป็นเงิน 85,000 หยวน หรือประมาณ 425,000 บาท

คำตอบของอาฟางบอกว่า ตอนนั้นที่เธอท้องเธอมีอายุเพียง 17 ปี และคบหากับอาเฉียงจากนั้นตั้งท้องตอน 18 ปี ซึ่งเธอเองไม่รู้เหมือนกันว่าเสี่ยวหัวไม่ใช่ลูกเขา

ย่าสุดช้ำ หลานสาวสุดรักตรวจ DNA พบไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ไม่รู้ใครพ่อเด็ก

อาฟาง สารภาพตามตรงว่าเธอไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าชดเชยเป็นก้อน จึงขอจ่ายเป็นงวด ๆ ให้แทน และจะขอเอาเสี่ยวหัวกลับมาดูแลต่อเอง เนื่องจากไม่สามารถเซ็นเป็นบุตรบุญธรรมของใครได้ และกังวลหากอาเฉียงแต่งงานใหม่คงไม่โอเค

อาฟางบอกว่าเธอไม่ได้ละเลยลูกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เธอต้องออกไปทำงาน โดยเธอจะพาเสี่ยวหัวไปอยู่กับยายที่บ้านเกิดเอง และตกลงกันว่าย่าเฉินสามารถไปเยี่ยมเสี่ยวหัวเมื่อใดก็ได้ในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : hk01

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

Peangaor

นักเขียนประจำ Thaiger จบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มศว เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาชี้แจงแตกประเด็นในรูปแบบย่อยง่ายเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง รวมถึงเรื่อง Pop culture ซีรีส์ อาหาร และเทรนด์แฟชั่นที่กำลังอินเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ preme@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button