การเงินเศรษฐกิจ

เช็กอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เดือนกันยายน 2566 จาก 10 ธนาคาร ผลตอบแทนคุ้ม

แนะนำ 10 ธนาคาร สถาบันการเงิน อัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ประจำเดือนกันยายน 2566 มีปรับเปลี่ยน ขึ้น-ลง เพียงเล็กน้อย สรุปข้อดีข้อเสีย อ่านก่อนลงทุน ดอกเบี้ยคุ้มทุน

รวมอัปเดต อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เดือนกันยายน พ.ศ. 2566 จากผลิตภัณฑ์น่าสนใจของทั้ง 10 ธนาคาร (สถาบันการเงิน) มีทั้งแบบฝากระยะยาวผลตอบแทนดี ฝากระยะสั้นเน้นหมุนเงินลงทุนประกอบธุรกิจ พร้อมเทียบให้เห็นชัด เงินฝากธนาคารแบบไหนเหมาะสมกับเราบ้าง

ทั้งนี้ทีมข่าวเศรษฐกิจ เดอะ ไทยเกอร์ ได้รวบรวมข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้สามารถเทียบเคียงรายละเอียดได้ถูกต้อง พร้อมตัดสินใจลงทุน จะมีเงินฝากจากธนาคารใดน่าสนใจบ้าง เข้ามาอ่านในนี้กันได้เลยจ้าา

แนะนำ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจาก 10 ธนาคาร ประจำปี 2566

สำหรับ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เดือนกันยายน อัปเดตล่าสุดปี 2566 ทั้งหมด 10 สถาบันการเงิน (ธนาคาร) ที่นำมาแนะนำนั้น ประกอบด้วย ธนาคาร ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารยูโอบี ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารทิสโก้ และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงเทพ

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.35-0.55%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.95%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.05%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.35%

ธนาคารกรุงไทย

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.30%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.92%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.05%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.45%

ธนาคารกสิกรไทย

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.30%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.87-0.92%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.00-1.05%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.40-1.45%

ธนาคารไทยพาณิชย์

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.30%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.92%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.05%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.45%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.25%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.92%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.05%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.45%

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.25%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.95%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.10%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.50%

ธนาคารยูโอบี

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.35%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.60%

ฝากประจำ 6 เดือน : 0.70%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.60%

ธนาคารทหารไทยธนชาต

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.125%

ฝากประจำ 3 เดือน : 0.65%

ฝากประจำ 6 เดือน : 0.90%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.25%

ธนาคารทิสโก้

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.30-2.00%

ฝากประจำ 3 เดือน : 1.25-1.50%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.35-1.60%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.75-1.90%

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

เงินฝากออมทรัพย์ : 0.25%

ฝากประจำ 3 เดือน : 1.15%

ฝากประจำ 6 เดือน : 1.25%

ฝากประจำ 12 เดือน : 1.35%

เงินบาท เงินไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก กันยายน 2566

สรุป ข้อดี-ข้อเสีย เงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ

อย่างไรก็ตามเงินฝากธนาคาแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ เงินฝากออมทรัพย์ และ เงินฝากประจำ ส่วนมากจะแตกต่างกันที่การฝากในระยะสั้นและฝากในระยะยาว ทั้งนี้ล้วนแล้วแต่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการใช้งานของแต่ละคนครับ

ข้อดีของการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์

  • สะดวกในการฝาก-ถอนเงิน สามารถฝาก-ถอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านตู้ ATM ของธนาคารสาขา หรือผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร
  • ปลอดภัย เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DIC) สูงสุด 5 ล้านบาท
  • สภาพคล่องสูง สามารถนำเงินฝากไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ
  • มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำหรือไม่มีค่าธรรมเนียม
  • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก สามารถทำรายการเปิดบัญชีได้ด้วยตัวเอง

ข้อเสียของการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์

  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ
  • ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
  • ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากการฝาก-ถอนเงิน เช่น กู้เงิน หรือซื้อกองทุนรวม

โดยสรุปแล้ว การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือต้องการความสะดวกในการฝาก-ถอนเงิน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น ควรพิจารณาการลงทุนประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม

ข้อดีของการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ

  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
  • ปลอดภัย เงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DIC) สูงสุด 5 ล้านบาท
  • สภาพคล่องต่ำ ไม่สามารถถอนเงินก่อนกำหนดได้ หากถอนเงินก่อนกำหนดอาจเสียค่าธรรมเนียม
  • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก สามารถทำรายการเปิดบัญชีได้ด้วยตัวเอง

ข้อเสียของการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ

  • ไม่สะดวกในการฝาก-ถอนเงิน สามารถฝาก-ถอนเงินได้เฉพาะที่ธนาคารสาขา หรือผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนด
  • ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากการฝากเงิน เช่น กู้เงิน หรือซื้อกองทุนรวม

โดยสรุปแล้ว การเปิดบัญชีเงินฝากประจำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือต้องการความสะดวกในการฝาก-ถอนเงิน ควรพิจารณาการลงทุนประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม

อ้างอิง : ธนาคารแห่งประเทศไทย

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button