ข่าวภูมิภาค

ตรวจสอบบ่อเลี้ยงกุ้ง กระบี่ พร้อมขึ้นป้ายยึดคืนพื้นที่ รวม 2 แปลงเนื้อที่กว่า 100 ไร่

วันที่ 17 พ.ค.61 นายณรงฤทธิ์ เพชรชนะ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 26 (เมืองกระบี่) เปิดเผยว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมออกปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลน ที่มีการบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองจิหลาด ในพื้นที่ม.4 และม.5 ตำบลไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ รวม2 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ หลังได้มีการจับกุมดำเนินคดี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 โดยได้ทำการยึดคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยแปลงแรก อยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.ไสไทย เนื้อที่ 35 ไร่ 15 ตารางวา มีผู้ต้องหาประกอบกอบด้วย นายมนัส อ้นคง และ นายสถาพร แกล้วกล้า ซึ่งผลทางคดี ทางสำนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ มีหนังสือที่ อส.0042(กบ)/5861 ลงวันที่ 21สิงหาคม 2560 แจ้งผลการดำเนินคดีอาญาว่า พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองราย ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ไม่พบบุคลใดในพื้นที่ ส่วนสภาพบ่อเลี้ยงกุ้งโดยทั่วไป พบอุปกรณ์เลี้ยงกุ้งบางส่วนถูกทิ้งไว้ ไม่มีการเลี้ยงกุ้ง และมีการปล่อยน้ำเข้าออกตามธรรมชาติ เจ้าหน้าที่จึงปักป้ายยึดพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้ทำประโยชน์ในพื้นที่ ส่วนแปลงที่2 อยู่ในพื้นที่บ้านอ่าวน้ำเมา ม.5 ต.ไสไทย เนื้อที่ 88 ไร่ 3 งาน 56 ตารางวา มีผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วยนายวิเชียร นุ่นบุญคง นายสมบูรณ์ เทิดเกียรติขจร และนายนิยม ห้าฝา ซึ่งผลคดี ทางสำนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ได้มีหนังสือที่ อส.0042(กบ)/5861 ลงวันที่ 21สิงหาคม 2560 แจ้งผลคดีอาญาว่า พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหา จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่พบว่าได้หยุดการเลี้ยงไปแล้ว เช่นกัน
เหลือเพียงอุปกรณ์บางส่วน เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นป้ายประกาศ ยึดพื้นที่คืน ห้ามบุคคลใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ นายณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยด้วยว่า ก่อนจับกุมดำเนินคดีทั้ง 2 แปลง นั้นพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ผู้แต่ต้องหาในคดีอ้างว่า ไม่มีเจตนาบุกรุกเนื่องจากไม่ทราบอยู่ในเขตและพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์บางส่วน
ซึ่งได้เช่าจากเจ้าของที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เพื่อทำบ่อเลี้ยงกุ้ง โดยแปลงแรกรุกล้ำเขตป่าสงวน 22 ไร่ ส่วนแปลงที่ 2 รุกล้ำเขตป่าสงวน 49 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้จะหาแนวทางฟื้นฟูต่อไป

Advertisements

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button