ข่าวข่าวต่างประเทศ

วัยรุ่นเจ้าของมรดก 561 ล้าน ตายปริศนา เผยก่อนตายเพิ่งเซ็นใบสมรส

วัยรุ่นเจ้าของมรดก 561 ล้าน ตายปริศนา แม่เชื่อถูกฆาตกรรม เผยก่อนตายเพิ่งเซ็นใบสมรสกับผู้จัดการมรดก ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม สำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์รายงานคดีการตายปริศนาของวัยรุ่นอายุ 18 สกุลไหล ที่ได้รับมรดกเป็นอสังหาริมทรัพย์มูล 561 ล้านบาท และเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับนายเซี่ย วัย 26 ปี ได้เพียงแค่ราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

แม่ของผู้ตายได้ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมกับทนายว่า ลูกชายของเธอเสียชีวิตในวันที่ 4 พฤษภาคม หนึ่งวันให้หลังจากที่ฝังร่างของพ่อ โดยผู้เป็นพ่อได้โอนย้ายอสังหาริมทรัพย์ 30 แห่งในเมืองไถจง ให้แก่ลูกชายในช่วงที่ล้มป่วย และกระบวนการย้ายเสร็จสิ้นช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต

ในวันเกิดเหตุนั้นนายเซี่ย ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกได้ชวนลูกชายไปพูดคุยเรื่องจัดการมรดก ก่อนที่แม่จะขาดติดต่อกับลูกชาย และมาทราบทีหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายพลัดตกจากคอนโดสูงชั้น 10 เสียชีวิต โดยคอนโดชั้นดังกล่าวนั้นเป็นสถานที่ที่นายเซี่ยอาศัยอยู่ด้วย

จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่า ทั้งสองคนได้เดินทางไปยังสำนักงานเพื่อจดทะเบียนสมรสเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก่อนเสียชีวิต

ทางทนายเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกฆาตกรรม และผู้เป็นแม่ยืนกรานว่าเธอไม่มีทางเชื่อว่าลูกชายเธอจะฆ่าตัวตาย พร้อมบรรยายว่านายไหลเป็นเด็กดี และเพิ่งได้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยลูกชายของเธอสัญญาว่าจะพาแม่ไปเที่ยว พร้อมทั้งไม่เชื่อด้วยว่าลูกชายเธอจะมีรสนิยมรักร่วมเพศ เพราะเขาอกหักจากสาวที่โรงเรียน และเขาเพิ่งเคยเจอนายเซี่ยแค่สองครั้งเท่านั้น

ขณะที่ผลชันสูตรศพพบว่า ผู้ตายศพมีกระดูกแตกที่ศอกขวา และไม่พบเลือดออกในศีรษะกับช่องท้อง ซึ่งดูเป็นอาการที่เบาหากเทียบกับการตกตึก 10 ชั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการวางพิษและจัดการฉากให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตายมากกว่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ต้องสงสัยและพ่อผู้ต้องสงสัย ก่อนที่ทั้งสองจะได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 360,000 บาท

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button