อาร์แซน เวนเกอร์ มองว่า VAR ควรมีการเช็คลูกตีเสมอของ แมนซิตี้ ที่ยิงใส่ เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก เพราะลูกบอลออกข้างสนามไปก่อนหน้านั้นแล้ว
เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พฤษภาคม) ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเบิศ นัดแรก ระหว่าง เรอัล มาดริด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งผลการแข่งขันเป็นทั้งสองทีมที่เสมอกันไป 1-1 โดยเจ้าบ้านได้ประตูจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ส่วนทีมเยือนได้ประตูตีเสมอจาก เควิน เดอ บรอยน์
The ball appeared to go out of play in the buildup before Kevin De Bruyne's equalizer against Real Madrid.
VAR did not review the goal. pic.twitter.com/gjPBmNYnr8
— ESPN FC (@ESPNFC) May 9, 2023
อย่างไรก็ตาม ฝั่งทัพราชันชุดขาวพยายามประท้วงผู้ตัดสินในเกมนี้ เนื่องจากพวกเขามองว่าจังหวะต่อเนื่องก่อนหน้านั้น แบร์นาร์โด้ ซิลวา ไปเกี่ยวบอลจากริมเส้นกลับมาเล่นต่อ ซึ่งทำไปลูกประตูตีเสมอของดาวเตะชาวเบลเยียม
เช่นเดียวกับ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของทัพราชันชุดขาว ที่โวยวายอยู่ข้างสนามจนโดนใบเหลือง แต่นั่นก็ไม่เป็นผล เพราะผู้ตัดสินอย่าง อาร์ตูร์ ดิอาส ยืนยันให้ประตูแก่ฝั่งแมนน ซิตี้ โดยที่ไม่มีการท้วงจาก VAR
Explanation on why the goal stood.
Real did regain posesssion after the ball was “out of play”
20 seconds from ball out of play to KDB’s goal
7 passes (1 from real madrid) in the 20 seconds
Just spitting some facts. Spread it while youre at it 🙌🙏
— ⁴⁷Foden🇩🇰 (@4Foden) May 9, 2023
หลังจบเกม เวนเกอร์ ที่ถูกเชิญให้ไปเป็นกูรูวิเคระาห์กับ beIN ได้แสดงความเห็นในจังหวะนี้ว่า “ตามปกติในสถานการณ์แบบนี้ VAR ต้องเข้ามาแทรกแซง ว่าสมควรให้ประตูหรือไม่”
“ในเกมนี้ VAR ยังทำแบบนั้นไม่มากพอ หรือไม่ก็ขาดความสามารถพอที่จะทำ, ผมคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะปกติ VAR ไม่สามารถเช็คบริเวณเส้นข้างได้ และเช็คได้แค่เส้นประตูเท่านั้น”
อัปเดตข่าวกีฬากับ The Thaiger : คลิก
