ข่าวข่าวภูมิภาค

‘หมอกฤตไท’ ล่าสุด รับเคมีบำบัด เผยข่าวดีก้อนใหญ่ด้านขวาเล็กลง

หมอกฤตไท ล่าสุด เข้ารับเคมีบำบัดครั้งที่สาม ผมเริ่มร่วง แต่มีข่าวดีหลังก้อนใหญ่ด้านขวาเล็กลง ส่วนก้อนน้อยทางปลอดซ้ายจางลง ขอบคุณทุกกำลังใจ

จากกรณีของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี หมอป่วยมะเร็ง เจ้าของเพจสู้ดิวะ ที่ได้ออกมาเล่าเรื่องของตนหลังตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็งปอด แม้ว่าร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ และได้รับกำลังใจจากชาวเน็ต รวมถึงปลุกกระแสการดูแลตัวเองดั่งที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

Advertisements

ล่าสุดมีข่าวดีสำหรับ กฤตไท ธนสมบัติกุล หลังจากที่ หมอกฤตไท เล่าถึงความคืบหน้าของการรักษาเคมีบำบัดผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “สวัสดีครับทุกคน ผมสบายดีครับ ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติครับ

ผมเพิ่งรับเคมีบำบัดครั้งที่สาม มาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาครับ รอบนี้เพลียมากๆเลยครับ ง่วงทั้งวัน ตื่นมากินข้าวแล้วก็หลับต่อ
เรียกได้ว่านอนจนจะเป็นแผลกดทับครับ วันนี้มีแรงมากขึ้นแล้วครับ ออกมาทานข้าวนอกบ้าน อยากไปออกกำลังกายแล้ว แต่ฝุ่นเชียงใหม่ก็เริ่มน่ากลัวเกินกว่าจะเอาปอดไปเสี่ยง ไม่อยากจะคิดถึงฝุ่นช่วงพีคเลย คงต้องเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ก็ย้ายจังหวัดชั่วคราว แต่เอาจริงช่วงพีคนี่ย้ายไปจังหวัดไหนก็คงพอกัน

ยังไงก็ตามครับ ช่วงก่อนที่จะรับยารอบสามนี้ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นครับ ต้องบอกว่าตัวผมเองปกติแล้วออกกำลังกายหนักถึงหนักมากครับ แต่พอมาเข้ารับการรักษาในช่วงเดือนแรก ลำพังแค่ยืนให้ตรงก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะงั้นการออกกำลังกายจึงไม่ได้ทำเลยครับ วันๆก็กินกับนอน บวกกับช่วงแรกเป็นช่วงประชดชีวิต อะไรที่เคยไม่กิน เราก็กินหมดเลย ของทอด ของมัน หมูกรอบ สามชั้นขนมเค้ก น้ำหวาน เรียบร้อยครับ ไขมันสูง

กฤตไท ธนสมบัติกุลคือใคร
ภาพจาก สู้ดิวะ

ผมได้เริ่มกินยาลดไขมันในเลือดครับ…แต่ดีนะครับ มันทำให้ผมมีเป้าหมายระยะสั้นขึ้นมาเลย ว่าเราจะต้องกลับมามีวินัยดูแลตัวเองแล้ว คือในช่วงรับการรักษามันจะต้องกินเยอะๆครับ เพราะโดยทั่วไปเราจะน้ำหนักลดอยู่แล้ว คราวนี้เราต้องเน้นไปที่การกินของดี พวกอกไก่ ไข่ขาว ธัญพืช แป้งดีๆ ลดน้ำตาล ลดไขมันให้มากที่สุด บวกกับเริ่มออกกำลังกายด้วย ซึ่งจริงๆแล้วเหตุผลในการที่ผมจะกินแต่ของอร่อยและไม่ออกกำลังกายมีเต็มไปหมดเลย แถมเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วย

แต่ผมก็เลือกกลับมาจริงจังกับเรื่องโภชนาการ และการออกกำลังกาย ในวันที่ฝุ่นน้อยๆ ผมจะเริ่มจากการออกไปเดิน พยายามเดินให้ได้หมื่นก้าวซึ่งมันใช้เวลานานมาก เดินได้สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าเราต้อง วิ่งดิวะ!!

Advertisements

ผมก็ค่อยๆลองวิ่ง ผมวิ่งได้จริงๆครับ ถึงจะยังไม่ใช่ความเร็วเท่าเดิม แต่วิ่งได้ คุมการหายใจได้ แรกๆก็วิ่งได้ไม่กี่นาที แต่พอทำไปเรื่อยๆก็เริ่มวิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ช่วงแรกจะปวดขามากๆ เพราะกล้ามเนื้อมันหายไปเยอะมากช่วงที่นอนโรงพยาบาล ต้องซ้อมอยู่หลายวันกว่าจะวิ่งต่อเนื่องได้สิบห้านาที

ผมเลยต้องเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วย ล่าสุดก่อนรับยารอบนี้ก็เล่นได้ทุกท่านะ แต่น้ำหนักลดลงจากที่เคยยกได้มากๆ ก็ค่อยๆซ้อม ค่อยๆหาสมดุลของร่างกาย เรียกความฟิตกลับมาเท่าที่ไหว หวังว่าวันหนึ่งจะกลับไปเล่นบาสได้

ซึ่งการทำอะไรพวกนี้ มันรู้สึกว่าได้มีบางส่วนของชีวิตที่เราพอจะพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของมันได้บ้าง

กฤตไท ธนสมบัติกุล ป่วย
ภาพจาก สู้ดิวะ

ในส่วนของสิ่งที่เราทำได้แค่เชื่อ และภาวนา คือเรื่องการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด ส่วนนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้แค่ภาวนาให้น้องมะเร็งตอบสนองกับยาที่ให้ไปเท่านั้น

ซึ่งปัจจุบันเอกซเรย์ปอดดูดีขึ้นครับ ก้อนใหญ่ด้านขวามีขนาดเล็กลง และก้อนน้อยๆที่ปอดซ้ายก็ดูจางลงครับ ผลข้างเคียงที่ชัดๆก็มีแค่เรื่องผมร่วง กับอ่อนเพลีย ยังไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงอะไร

ผมเป็นคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์และหลักการทางวิจัยก็จริง การที่มันตอบสนองก็คงมีกลไกของยาตามที่การศึกษาได้บอกไว้

แต่อีกส่วนหนึ่งผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะมีผู้หวังดีหลายๆท่าน ทั้งที่ผมทราบ และที่ผมไม่ทราบ ได้ทำการภาวนา สวดมนต์ทำบุญ รวมถึงอีกหลากหลายวิธีที่ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันส่งพลังได้
เพื่อที่จะส่งมอบพลังดีๆให้กับผมเพื่อให้โรคนี้สงบ ให้ผมมีสุขภาพแข็งแรง ผมขอบพระคุณจากใจจริงครับ

ผมเชื่อจริงๆว่า ส่วนของสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์นี้ล้วนประกอบกันทำให้ ณ ปัจจุบัน การรักษาของผมจึงเป็นไปได้ด้วยดี ตัวผมเองก็สวดมนต์ทำบุญอยู่ตลอด และหวังว่าทุกท่านที่ส่งต่อพลังดีๆให้ผมจะได้พบเจอสิ่งดีๆในชีวิตเช่นกันครับ

ณ ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องราวจะไปได้สวย โรคดูเหมือนจะตอบสนอง แต่ยังไงก็ตามเราต้องไปติดตามหลังจากได้รับการรักษาครบอีกที แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปดูด้วยว่าก้อนในหัวเล็กลงไหม มีก้อนใหม่ขึ้นที่อื่นในร่างกายไหม การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกลครับ

แต่ตอนนี้ แค่วันนี้เท่านั้น ที่ผมมีแรงลุกขึ้นมาเดิน มาวิ่งได้ ออกมากินข้าว และมาพิมพ์โพสต์นี้ได้

วันนี้เท่านั้นที่ผมมี และผมจะไม่ใช้ วันนี้ ไปกับการนั่งคิดว่าโรคผมจะโตขึ้นหรือลุกลามเยอะขึ้นเมื่อไร ผมจะใช้วันนี้เตรียมร่างกายให้ดีที่สุด

ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สนุกและมีสุขภาพที่แข็งแรงครับ”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button