ครม. ประกาศถึงการอนุมัติดำเนินโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 (ระยะที่ 4) โดยมีกรอบวงเงินจำนวน 9 พันล้านบาท พร้อมทั้งปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
เมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 ม.ค. 2565 ได้อนุมัติโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 4 (เฟส 4) กรอบวงเงิน 9,000 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก. เงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โดยให้มีระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมตั้งแต่เดือน ก.พ. – มิ.ย. 2565 เป็นตั้งแต่เดือน ก.พ. – ก.ค. 2565
สำหรับการดำเนินโครงการนั้น รัฐจะสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก คนละไม่เกิน 10 ห้อง ร้อยละ 40 ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำนวน 2 ล้านสิทธิ แต่ครั้งนี้ ได้ปรับลดสิทธิสำหรับบัตรค่าโดยสารเครื่องบินลงเหลือ 6 แสนสิทธิ เนื่องจากการดำเนินโครงการในระยะที่ผ่านมาในส่วนของบัตรโดยสาร ปรากฎว่าผู้ร่วมโครงการไม่ได้มีการใช้สิทธิเต็มสิทธิที่ให้อยู่แล้ว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มาตรการที่ได้รับอนุมัติครั้งนี้จะเป็นการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้ประชาชนมีเกิดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาล
พร้อมกันนี้ ครม. ยังมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตาม การดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหา ประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการ เป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และสามารถ ตรวจสอบได้ต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ครม. ยังได้เห็นชอบให้ ททท. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” โดยปรับลดจำนวนสิทธิโครงการ จากเดิม 1 ล้านสิทธิ เป็น 2 แสนสิทธิ ทำให้กรอบวงเงินดำเนินโครงการลดลงจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้มีการเดินทางเป็นหมู่คณะ และขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนก.พ. 2565 เป็นสิ้นสุดเดือนพ.ค. 2565 พร้อมกับมอบหมายให้ ททท. กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวภายใต้โครงการฯ โดยเคร่งครัดด้วย
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : เศรษฐกิจ