สธ. ห่วง โควิดภาคใต้ พบหลายสายพันธุ์ แต่ยังไม่กลายพันธุ์
กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์ โควิดภาคใต้ ว่าในขณะนี้พบหลายสายพันธุ์ แต่ยังไม่พบโควิดกลายพันธุ์ในพื้นที่
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคใต้ที่ในขณะนี้ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากว่า สถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยอยู่ในช่วงขาลง แต่ตัวเลขจะยังเหวี่ยงอยู่ระหว่างหลักหมื่นกับหลักพันรายต่อวัน หากดูกราฟตัวเลขของทั้งประเทศจะพบว่า พื้นที่ กทม.และภูมิภาคส่วนอื่นๆ ติดเชื้อลดลง แต่ภาคใต้โดยเฉพาะ 4 จังหวัด กราฟการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเป็นตัวที่มาทำให้อัตราการติดเชื้อในภาพรวมของภูมิภาคยังดูสูง
ขณะนี้กำลังเร่งควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ หากลดการติดเชื้อลงได้ จะทำให้ภาพรวมทั้งประเทศลดลงอีก คาดว่าในสิ้นเดือนต.ค.ติดเชื้อรายใหม่น่าจะอยู่ที่ 5,000 รายต่อวัน
ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 12 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ในภาคใต้ ยังระบาดค่อนข้างมาก โดยลักษณะการระบาดตามหลังสถานการณ์ กทม.อยู่ 2 เดือน เริ่มติดเชื้อมากขึ้นในส.ค. และเป็นการติดเชื้อในครอบครัว
ที่น่ากังวลคือวิถีชีวิตของคนพื้นที่ภาคใต้ค่อนข้างมีกิจกรรมการรวมกลุ่มมาก และการฉีดวัคซีนยังต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการฉีดวัคซีนชนิดอื่นๆ ก็น้อย อย่างไรก็ตาม ทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่แล้วว่า หากฉีดวัคซีนกันมากขึ้นครอบคลุมอย่างน้อย 70% จะเปิดให้ละหมาดร่วมกันได้ เพราะขณะนี้ห้ามทั้งหมด หากฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เดินทางไปไหนมาไหนก็จะสะดวกขึ้น
ทั้งนี้ เขตสุขภาพที่ 12 ตั้งเป้าหมายลดอัตราการติดเชื้อให้ได้ 10% ทุกสัปดาห์ และสถานการณ์ต้องคลี่คลายก่อนปีใหม่ โดยมีทีม CCRT ทำเรื่องการตรวจคัดกรอง เจอผู้ป่วยก็นำเข้าสู่ระบบการรักษา เดินหน้าฉีดวัคซีนให้มีความครอบคลุมสูง รวมถึงความครอบคลุมวัคซีนจะมีมากขึ้น
ที่สำคัญคือการสร้างความรู้ ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับคนในพื้นที่ เพราะยังมีความกังวล เนื่องจากต.ค.นี้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต้องติดตามกำกับอย่างเข้มข้น เช่น งานศพ งานบุญ กิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ที่เป็นการรวมกลุ่มของคนในพื้นที่
สำหรับมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อ เช่น ผู้ป่วยอาการสีเขียวดูแลตัวเองที่บ้านต้องดูเป็นรายกรณี ดูลักษณะครอบครัว การอยู่อาศัยร่วมกันว่าทำได้หรือไม่ ขณะที่เตียงใน รพ.ตอนนี้ถือว่าตึงเล็กน้อย อัตราครองเตียงประมาณ 80% ถ้าจะให้ผ่อนคลายลง ควรอยู่ที่ประมาณ 70% จึงต้องบริหารจัดการกันให้ดี
ขณะนี้อัตราการเสียชีวิตในพื้นที่น้อยลงอยู่ที่ประมาณ 0.9% ขณะที่ภาพรวมเสียชีวิตของประเทศประมาณ 1% แต่ไม่ได้ดีใจ เพราะติดเชื้อเพิ่มขึ้นช่วงนี้ ซึ่งบางรายรักษานานกว่า 2 เดือนแล้วเสียชีวิตก็มี จึงต้องจับตาดูอีกสักเดือนว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนสายพันธุ์ของไวรัสในพื้นที่ภาคใต้แตกต่างจากภาพรวมของประเทศที่ส่วนใหญ่ เป็นสายพันธุ์เดลตา แต่ภาคใต้เป็นอัลฟา 58% เดลตา 38% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่เดินทางกลับจากพื้นที่ กทม. อยู่แถว ตรัง พัทลุง สตูล เป็นต้น ที่เหลือเป็นสายพันธุ์เบตา
แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่นราธิวาส ข้อกังวลว่าจะผสมกันและเกิดการกลายพันธุ์ เนื่องจากพบการติดเชื้อถึง 3 สายพันธุ์ พยายามติดตามข้อมูลในประเทศมาเลเซีย เพราะมีพื้นที่ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนใกล้เคียงกัน ก็ยังไม่เห็นสัญญาณของเชื้อกลายพันธุ์
เมื่อถามถึงการข้ามแดนผิดกฎหมาย นพ.สุเทพ กล่าวว่า ยังเจอบ้าง แต่ตั้งด่านตรวจสอบและเฝ้าระวังการลักลอบต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาจากการตรวจสอบ ติดตาม พบว่าคนที่เข้าเมืองแบบถูกกฎหมาย เข้าระบบกักตัวตรวจพบการติดเชื้อ 30% ส่วนคนที่ลักลอบเข้ามาตรวจเจอเชื้อประมาณ 9% ซึ่งปัจจุบันลักลอบเข้ามาสัปดาห์ละประมาณ 100-200 คน ก็ตามตัวกลับมาเฝ้าระวังใน Local Quarantine