Fraction เตรียมออกโทเคนดิจิทัล หลังได้รับ ICO Portal License จาก ก.ล.ต.
แฟรคชั่น (Fraction)ได้รับอนุมัติ ICO Portal License จาก ก.ล.ต. จับมือ 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของไทยเตรียมออกโทเคนดิจิทัล
Fraction ซึ่งเป็นบริษัท fintech ที่มีฐานธุรกิจอยู่ในฮ่องกงและไทย ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เพื่อให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal License)
- Fraction ให้บริการระบบเสนอขายและซื้อขายโทเคนดิจิทัลครบวงจร รับจดทะเบียนสินทรัพย์เป็นโทเคนดิจิทัลโดยมีหลักทรัพย์อ้างอิง การแบ่งซอยสินทรัพย์ออกเป็นส่วนย่อยๆ (fractionalization) พร้อมทั้งให้บริการระบบซื้อขายในตลาดที่สองได้
- สินทรัพย์กลุ่มแรกที่พร้อมเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายบน Fraction คือ โครงการของสามบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของไทย ได้แก่ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“MQDC”), บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“Charn Issara”) และ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) (“NVD”)
- Fraction ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่และพาร์ทเนอร์ของบริษัท Lazard (LAZ.NYSE) ซึ่งเป็นกิจการวาณิชธนกิจแนวหน้าของโลก และ co-founder เจ้าของธุรกิจด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง
- Fraction กำลังระดมทุนก้อนใหม่เพื่อขยายฐานผู้ใช้งาน, นำสินทรัพย์ใหม่ ๆ เข้ามาจดทะเบียนเป็นโทเคนดิจิทัล, และขยายตลาดต่างประเทศ
16 กันยายน 2564 , กรุงเทพฯ – บริษัท Fraction (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือ Fraction Group กิจการ Fintech ชั้นนำของฮ่องกง ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal License) โดยจะเริ่มประกอบกิจการเมื่อได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต ทั้งนี้ Fraction ได้พัฒนา Platform เพื่อพร้อมให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลครบวงจรขึ้นมาเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งสามารถให้บริการที่ครอบคลุมอย่างรอบด้านดังนี้
- บริการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัล (NFT and Asset Digitization) และ การแบ่งซอยสินทรัพย์ออกเป็นส่วนย่อย ๆ (Ownership Fractionalization) อย่างครบวงจร
- การเสนอขายโทเคนดิจิทัลครั้งแรกให้กับนักลงทุน (“Initial Fraction Offering” หรือ “IFO”)
- บริการตลาดที่สองเพื่อรองรับการซื้อขายโทเคนดิจิทัลระหว่างผู้ลงทุน
- การทำหน้าที่ตัวกลางสำหรับบริการอื่นๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและนักลงทุนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ
ด้วย Platform สำเร็จรูปของ Fraction ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนและพร้อมใช้งานได้ทันที ทำให้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถลงทุน, เสนอขาย, และบริหารการถือครองสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าส่วนของความเป็นเจ้าของจะเล็กน้อยแค่ไหน โดยสินทรัพย์นั้นอาจจะอยู่ในรูปของ คอนโดในเมือง, ริสอร์ทริมทะเล, งานศิลปะ ซึ่งรวมถึงการบริหารกองทุนส่วนบุคคล สินทรัพย์ และ ผู้ลงทุนด้วย
“พวกเรารู้สึกภูมิใจที่จะประกาศว่าเราเป็น platform แบบครบวงจร (unified platform) แรกภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการนำสินทรัพย์ที่มีตัวตนอย่างอสังหาริมทรัพย์มาแปลงสภาพเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และนำมาจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดรองได้อย่างเป็นระบบ เราใช้เวลากว่า 3 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยี และเตรียมความพร้อมในแง่โครงสร้างทางกฎหมาย จนทำให้เราได้รับความเห็นชอบจากก.ล.ต. ให้เป็นผู้ให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน โดยการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้” คุณเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO บริษัท Fraction (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว ทั้งนี้คุณเอกภักดิ์เป็น อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ และพาร์ทเนอร์ ของ บริษัท Lazard (LAZ.NYSE) บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินและการบริหารสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก
“Fraction เป็น Platform ที่ได้รับอนุมัติจากก.ล.ต. โดยใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล (Distributed Ledger Technology: DLT) และ Ethereum Blockchain ในการบริหารจัดการกรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่ถูกซอยย่อยลงมาอยู่ในรูปของโทเคนดิจิทัล พวกเรายินที่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีทางการเงินการลงทุน และ เทคโนโลยี distributed ledger มาหลอมรวมเข้าด้วยกัน ในขณะที่หลาย ๆ คนได้แค่พูดถึง หรือพยายามที่จะทำสิ่งนี้ แต่เราพัฒนา Platform ของ Fraction จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ได้ใช้งานเบื้องต้นแล้วในตลาดต่างประเทศ และ เราพร้อมจะนำสินทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนใน Platform ของเราได้แล้วด้วย” Shaun Sales ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ บริษัท Fraction (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เปิดตัว IFO แรกด้วยสินทรัพย์เกรด เอ จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้า
Fraction ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เพื่อหาแนวทางนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของทั้งสามบริษัทมาระดมทุนจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลครั้งแรก (IFO) มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท
Fraction เปิดช่องให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุน
ด้วยรูปแบบการลงทุนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก Fraction และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งสาม ตั้งเป้าหมายจะพลิกโฉมหน้าโลกการลงทุน ด้วยการเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินทุนมูลค่าสูงได้ ยกตัวอย่างเช่นด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท นักลงทุนก็สามารถมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้า อย่างเช่น
- ห้อง Penthouse มูลค่า 350 ล้านบาท ของโครงการ Forestias หรือโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ซึ่งมีมูลค่าโครงการหลักหมื่นล้านบาท ของ MQDC
- รีสอร์ทระดับโลกอย่างศรีพันวา ภูเก็ต หรือ วิลล่า ติดหาด ของ Baba Beach Club ที่หาดนาใต้ ภูเก็ต และ หัวหิน ของชาญอิสสระ
- โครงการระดับแนวหน้าอย่าง Nirvana Beyond หรือ Nirvana @WORK ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลหลักที่กำลังเติบโตของกรุงเทพ
คุณสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมลงทุนกับ Fraction ว่า“เราทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในทำเลชั้นเลิศทั่วประเทศไทย ในสมัยก่อน โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้เปิดให้กับทุกคน แต่ในวันนี้ คนรุ่นใหม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในฐานะนักลงทุน”
คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า “MQDC มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทาง Fraction ซี่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค (Fin Tech) โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ MQDC ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของเราที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกของโลกที่นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลบน platform แบบรวมศูนย์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แบบ inclusive ตามแนวคิด Customer-Centric ซึ่งเราเชื่อว่าโมเดลนี้จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และอีกหลาย ๆ อุตสาหกรรมในอนาคตอย่างแน่นอน”
คุณศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึง Fraction ว่า “เราเข้าใจดีว่าโอกาสในการลงทุนที่ถูกจำกัดวงอยู่เฉพาะในกลุ่มคนที่มีฐานเงินทุนจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีคนหลาย ๆ คนออกมาพูดถึงเรื่อง Asset digitization และ Fractionalization ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ แต่เรายังไม่เห็นใครเลยที่ทำสำเร็จหรือพร้อมจะเดินหน้าในเรื่องนี้ไปกับเรา จนวันนี้ Fraction จะทำให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ในแง่ของการเสริมสร้าง financial inclusion”
ทั้งนี้ การดูแลสภาพคล่องและการซื้อขายในตลาดที่สองมีความสำคัญอย่างมากต่อสภาวะการลงทุนหลังการนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาด ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่มีการดำเนินการอยู่ในตลาดทุนทั่วโลก โดยในประเด็นนี้ KULAP บริษัทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. จะเป็นช่องทางหนึ่งในการเป็นผู้กำกับดูแลการซื้อขายในตลาดที่สองในช่วงแรกหลัง IFO ผ่านการเชื่อมโยงกับ Fraction Global Liquidity Pool
หลังจากที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้เริ่มดำเนินการได้แล้ว Fraction จะทำงานร่วมกับ MQDC, ชาญอิสสระ และ NVD เพื่อสรุปโครงสร้างการเสนอขาย และจัดทำเอกสารการเสนอขาย IFO เพื่อยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. ต่อไป โดย Fraction คาดว่าจะเริ่มเปิดจอง IFO ได้ในไตรมาสแรกของปี 2565
สามารถติดตามข่าวธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวธุรกิจ
- WeWork เปิดตัว G.I.V.E โครงการเสริมแกร่งธุรกิจเพื่อสังคม
- พาร์ค ออริจิ้น พญาไท – คอนโดสุดหรูใหม่ บนทำเล Medical Hub จาก IHG