กทม. เร่ง ฉีดวัคซีน ชุมชนคลองเตย เป็นวันที่สอง
กทม. เดินหน้า ฉีดวัคซีน ให้กับประชาชนจาก ชุมชนคลองเคย ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 3 พันคน พร้อมฉีดฆ่าเชื้อหลายจุด
ทางกรุงเทพมหานครได้ทำการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนจากชุมชนคลองเตยที่บริเวณลานจอดรถ ห้างโลตัสพระราม 4 เป็นวันที่สอง เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากพบผู้ป่วยในชุมชนแออัดดังกล่าว ซึ่งในวันนี้ทาง กทม. ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ วันละ 2,500-3,000 คน
โดยวัคซีนที่ทางกรุงเทพมหานครได้นำมาฉีดนั้นประกอบไปด้วย “ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา” โดยซิโนแวค จะฉีดให้กับประชาชนที่มีอายุ 18-58 ปี และแอสตราเซเนกา จะฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 58 ปี ขึ้นไป
สำหรับขั้นตอนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น ทางพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ ที่ปรึกษาของผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และทางสำนักงานเขตคลองเตย ให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในเขตกรุงเทพฯ
จากการสำรวจจำนวนประชาชนกรในพื้นที่เขตคลองเตย ซึ่งจะใช้วิธีนำเอาวัคซีนหารด้วยจำนวนประชากรแต่ละชุมชนทั้ง 39 ชุมชน ซึ่งมีจำนวน 98,000 คน แล้วเฉลี่ยเป็นบัตรคิว โดยสำนักงานเขตคลองเตย จะมอบหมายให้ประธานชุมชน เป็นผู้นำไปแจก ตามเกณฑ์ที่สำนักอนามัยกำหนด
ในส่วนของขั้นตอนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น จะมีการสำรวจจำนวนประชากรในพื้นที่เขตคลองเตย ซึ่งจะใช้วิธีนำเอาวัคซีน หารด้วยจำนวนประชากรแต่ละชุมชนทั้ง 39 ชุมชน ซึ่งมีจำนวน 98,000 คน แล้วเฉลี่ยเป็นบัตรคิว โดยสำนักงานเขตคลองเตย จะมอบหมายให้ประธานชุมชน เป็นผู้นำไปแจก ตามเกณฑ์ที่สำนักอนามัยกำหนด
ทั้งนี้ จะดำเนินการฉีดให้กับชาวบ้านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก่อน และจะขยายไปจนกว่าจะสามารถฉีดได้ครบเพื่อที่จะให้เกิดความเท่าเทียม และพี่น้องประชาชนจะได้รับวัคซีนโดยทั่วถึง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้บัตรคิวแล้วจะมารับวัคชีน โดยทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จากนั้นจะเข้าไปรับการฉีดวัคซีน ซึ่งเมื่อได้รับวัคซีนแล้วทั้งหมดจะต้องไปอยู่ที่เต็นท์สังเกตอาการ โดยจะมีทีมแพทย์พยาบาล คอยดูแลหากพบว่าแพ้วัคซีน ซึ่งตลอดการฉีด ยังไม่พบกลุ่มคนที่แพ้วัคซีนทันที
นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในหลายจุดในพื้นที่คลองเตย ตามสถานที่อาคาร สำนักงาน โรงเรียน โรงงาน บ้านพักอาศัยในชุมชนคลองเตยและตามจุดที่มีคนพลุกพล่าน พร้อมแจกถุงยังชีพ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19