เราไม่ทิ้งกัน สรุปอย่างง่าย วิธีการลงทะเบียน ขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด ไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่ขยายวงกว้างมากขึ้น นอกจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงล่าสุดมีประกาศให้ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยง หรือสถานที่ที่มีคนแออัด เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ
เช่น สนามมวย สถานบันเทิง ร้านอาหารกลางคืน ผับ บาร์ ร้านวด ร้านสปา โรงภาพยนตร์ รวมถึงสนามกีฬา และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทำให้แรงงานที่อยู่นอกระบบประกันสังคม และลูกจ้าง หรือลูกจ้างชั่วคราว ได้รับผลกระทบจำนวนมาก
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับผลกระทบจากการ “สั่งปิดกิจการ” ในช่วงที่เกิดเหตุระบาดโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยรายได้ให้ 5,000 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน โดยครอบคลุมแรงงาน 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.แรงงาน 2.ลูกจ้างชั่วคราว 3.อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม
ซึ่งวันนี้เราขอสรุปวิธีการและขั้นตอนการรับเงิน 5,000 บาทให้เข้าใจง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
เงื่อนไข: รัฐบาลชดเชยรายได้ 5,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน)
คุณสมบัติ: แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม และผู้ที่ส่งเงินประกันสังคมเอง ตาม ม.39 และ ม.40 ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (รวมไปถึง ม.33 ที่ส่งยังไม่ครบ 6 เดือน)
หลักฐาน:
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ข้อมูลนายจ้าง
ลงทะเบียน: www.เราไม่ทิ้งกัน.com
โดยระบบจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันเสาร์ที่ 28 มี.ค.นี้
วิธีรับเงินเยียวยา: จะได้รับเงินภายใน 7 วันหลังลงทะเบียน (อาจนานกว่านั้นหากมีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม) รับเงินได้ผ่าน สองช่องทาง
1. พร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน
2. โอนเข้าบัญชีธนาคาร
จำนวนที่แจก: 3 ล้านคน (หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับพิจารณาของ กระทรวงการคลัง)
อ่านเพิ่มเติม: ข่าวสาร การลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- ไม่ต้องเปิดใหม่ ! การคลัง ยืนยันแล้ว บัญชีทุกธนาคาร รับเงินเยียวยา 5,000 บาทได้
- ที่นี่มีคำตอบ ! ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ได้หรือไม่ ?
- รับทราบทั่วกัน ! การคลัง เปลี่ยนเวลาลงทะเบียน รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- เช็กให้ชัวร์ ! ผู้ใดและอาชีพไหน มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
https://www.youtube.com/watch?v=iPxSCx4rvyI&feature=youtu.be