ย้อนทำเนียบแชมป์ วอลเลย์บอล VNL 7 ปีแห่งความสำเร็จ เผยโฉมโทรฟี่ใหม่ สานต่อตำนานที่รอการจารึก

ปิดตำนาน-เปิดศักราชใหม่ VNL 2025 ย้อนทำเนียบแชมป์ 7 ปีแห่งความสำเร็จ เผยโฉมโทรฟี่ใหม่ สานต่อตำนานที่รอการจารึก
ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ ลีก (VNL) 2025 กำลังเดินทางเข้าสู่ช่วงตัดสินแชมป์ ได้ 8 ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบไปแข่งไฟนอลที่ประเทศโปแลนด์ Volleyball World ได้โหมโรงเปิดตัว สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศสูงสุดของรายการ นั่นคือการเผยโฉม “โทรฟี่ VNL” ดีไซน์ใหม่ ที่จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับโฉมเพื่อความสวยงาม แต่มันคือการขีดเส้นแบ่งระหว่างประวัติศาสตร์ยุคบุกเบิก กับการก้าวสู่ศักราชใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมของลีกวอลเลย์บอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เพิ่มทีมเป็น 18 ทีม ยกเลิกทีมวางทีมท้าทาย เกาหลีใต้ตกชั้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

สดุดีตำนาน 7 ปีกับโทรฟี่รุ่นบุกเบิก
ก่อนที่เราจะมองไปข้างหน้า คงจะดีไม่น้อยหากได้ย้อนกลับไปรำลึกถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมากับโทรฟี่ VNL รุ่นแรก ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นสักขีพยานแห่งชัยชนะมาตั้งแต่ปี 2018 ถ้วยใบนี้ได้เห็นกำเนิดของซูเปอร์สตาร์มากมาย ได้อยู่ในมือของทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแต่ละยุคสมัย

ประเภททีมชาย
- รัสเซีย (2018, 2019) มหาอำนาจทีมแรกที่ครองบัลลังก์ 2 สมัยซ้อนในยุคเริ่มต้น
- บราซิล (2021) ยักษ์ใหญ่จากอเมริกาใต้ที่กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งหลังโควิด-19
- ฝรั่งเศส (2022, 2024) ทีมพลังหนุ่มชุดโอลิมปิกที่สร้างยุคทองของตัวเองด้วยสไตล์การเล่นอันน่าตื่นตา
- โปแลนด์ (2023) เจ้าภาพสุดแกร่งที่คว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่
ประเภททีมหญิง
- สหรัฐอเมริกา (2018, 2019, 2021) ราชินีแห่ง VNL ตัวจริงที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน
- อิตาลี (2022, 2024) ทีมพลังตบอัซซูรี่ที่นำโดยดาวเด่นอย่าง เปาล่า อีโกนู กลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้ถึงสองสมัย
- ตุรกี (2023) สุลต่านลูกยางสาวที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ VNL ได้เป็นครั้งแรกของประเทศ
โทรฟี่ใบเก่าได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศในยุคที่ VNL ก่อร่างสร้างตัวจนแข็งแกร่ง และบัดนี้ มันได้ส่งไม้ต่อให้กับสัญลักษณ์แห่งยุคใหม่แล้ว
ศักราชใหม่ VNL 2025 โทรฟี่ที่คู่ควรกับลีกระดับโลก
การมาถึงของโทรฟี่ดีไซน์ใหม่ ตัวถ้วยสีเงินอร่ามตัดกับรายละเอียดสีทองอย่างสง่างาม ถูกออกแบบอย่างประณีตมีความหมาย โดย Landor Associates สาขาปารีส และ Objem Design แต่มันคือคำประกาศก้องแห่งความสำเร็จที่จับต้องได้ของ VNL ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา สร้างฐานคนดูทั่วโลก มีแฟนลูกยางเหนียวแน่น โดยเฉพาะชาวไทย
จากทัวร์นาเมนต์ที่เข้ามาแทนที่รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ของฝ่ายหญิง และเวิลด์ลีกของทีมชาย ได้เติบโตจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกอย่างเต็มตัว VNL ในปัจจุบันมีเงินรางวัลรวมหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดึงดูดนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกให้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างครบครัน มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เข้าถึงผู้ชมหลายร้อยล้านครัวเรือน โดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างบราซิล, โปแลนด์, ญี่ปุ่น, อิตาลี, สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทย
Volleyball World ประสบความสำเร็จในการสร้างชุมชนออนไลน์ที่แข็งแกร่ง มีผู้ติดตามและเกิดปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดียในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง มีผู้ติดตามในเฟซบุ๊กว่า 5.2 ล้านคน
สเตฟานี จาร์ดินา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Volleyball World กล่าวว่า “โทรฟี่ VNL โฉมใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นว่า VNL มาไกลแค่ไหนนับตั้งแต่เปิดตัว มันเป็นรางวัลที่คู่ควรกับนักกีฬาระดับโลกผู้ทุ่มเททุกสิ่งในสนาม และแฟนๆ ผู้หลงใหลที่คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด”
บัดนี้ ถ้วยรางวัลแห่งศักดิ์ศรีใบใหม่ได้ถูกเปิดตัวออกมาแล้ว มันยืนอยู่บนรากฐานแห่งประวัติศาสตร์ที่เหล่าแชมป์ในอดีตได้สร้างไว้ และกำลังรอคอยบทต่อไปของตำนานอย่างใจจดใจจ่อ
คำถามที่แฟนวอลเลย์บอลทั่วโลกกำลังเฝ้ารอก็คือ ใครจะเป็นทีมแรกที่ได้จารึกชื่อลงบนโทรฟี่แห่งศักราชใหม่ใบนี้? สมรภูมิ VNL 2025 รอบสุดท้าย คือเวทีที่จะให้คำตอบนั้น

ตารางแข่งวอลเลย์บอลหญิง VNL 2025 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ลุ้นติดขอบจอ
23 กรกฎาคม 2568
- อิตาลี (อันดับ 1) พบ สหรัฐอเมริกา (อันดับ 8)
- โปแลนด์ (อันดับ 4) พบ จีน (อันดับ 5)
24 กรกฎาคม 2568
- บราซิล (อันดับ 2) พบ เยอรมนี (อันดับ 7)
- ญี่ปุ่น (อันดับ 3) พบ ตุรกี (อันดับ 6)
26 กรกฎาคม 2568
รอบรองชนะเลิศ 2 คู่ (ผู้ชนะจากรอบก่อนรองฯ)
27 กรกฎาคม 2568
- ชิงอันดับ 3 (เหรียญทองแดง)
- รอบชิงชนะเลิศ (เหรียญทอง)
ทุกคู่ถ่ายทอดสดทางแอปพลิเคชั่น VBTV

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เงินรางวัล vnl 2025 วอลเลย์บอลหญิงไทย ได้กี่บาท
- “เพียว อัจฉราพร” เผยเหตุผลหลั่งน้ำตา หลังวอลเลย์บอลหญิงไทย รอดตกชั้น VNL 2025
- ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลชาย VNL 2025 วันนี้ 16 ก.ค. 68
ติดตาม The Thaiger บน Google News: