สามเหลี่ยมมรกต เป็นของใคร ฮุนเซนเคลมวุ่น ไทยโต้ ไม่ถอยให้

ฮุนเซน เดือด ปมสามเหลี่ยมมรกต-ตาเมือนปะทุอีก ทบ.ไทยยันยึดแผนที่-JBC โฆษกอ้างเขมรกล่าวอ้างสิทธิ์ปกติ ยืนยันฝั่งไทยทำตามกฎ กติกา
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่พิพาทช่องบก ชายแดน ไทย-กัมพูชา กลับมาร้อนระอุยิ่งกว่าเดิม หลังสมเด็จฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาอ้างพื้นที่สามเหลี่ยมมรตก เป็นพื้นที่ของกัมพูชา
สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความหลายครั้งผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว (ซึ่งมีการปิดกั้นการเข้าถึงจากผู้ใช้ในประเทศไทย แต่ยังสามารถรับชมได้จากต่างประเทศ) เกี่ยวกับประเด็นพื้นที่ชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย โดยล่าสุดได้กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต) เตรียมหยิบยกประเด็นปัญหาใน 3-4 จุด ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า ตนสนับสนุนแนวทางดังกล่าวอย่างเต็มที่ เนื่องจากเห็นว่าบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทำขึ้นในปี 2543 (ค.ศ. 2000) ไม่สามารถทำให้เกิดความคืบหน้าได้ และอาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนรวมถึงข้อพิพาทด้วยอาวุธหลายครั้ง สมเด็จฮุน เซน เห็นว่าหากฝ่ายไทยมีความจริงใจและต้องการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง ควรตกลงที่จะนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล โดยที่กัมพูชาไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายยื่นฟ้อง
ในข้อความตอนหนึ่ง สมเด็จฮุน เซน ระบุทำนองว่า กัมพูชากำลังรอดูท่าทีของไทยในประเด็นนี้ และในระหว่างที่รอ ขอให้ยุติการใช้กำลังทหารทุกประเภท พร้อมทั้งให้มีความอดทน แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้หากมีการล่วงละเมิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุน เซน เคยโพสต์ภาพตนเองในพื้นที่ที่อ้างว่าเป็นจุดพิพาท โดยระบุว่าเคยเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะมีการลงนาม MOU ปี 2543 เพื่อยืนยันว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา
ด้านท่าทีฝั่งไทย พลตรี วินัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความและภาพในพื้นที่ที่ถูกเรียกว่า “สามเหลี่ยมมรกต” และอ้างสิทธิ์ว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชาว่า การกล่าวอ้างสิทธิ์ในบางพื้นที่บริเวณชายแดนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากแต่ละฝ่ายยึดถือตามหลักฐานอ้างอิงที่แตกต่างกัน และทั้งสองฝ่ายต่างทราบดีว่าเป็นการกล่าวอ้างระหว่างกันเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อพื้นที่เขตแดนจริงตามข้อตกลง เนื่องจากผู้มีอำนาจระบุเขตแดนระหว่างประเทศคือ คณะกรรมาธิการปักปันเขตแดนร่วม (JBC)
โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า ฝ่ายไทยเน้นการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ภายใต้กฎกติกาและข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดร่วมกันเป็นสำคัญ ทุกเหตุการณ์ที่ทหารฝ่ายไทยแสดงออก เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติตามหลักกติกาสากล และเตรียมพร้อมรับมือสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยยังคงต้องรอผลการหารือในระดับ JBC ต่อไป
สำหรับการปิดกั้นการมองเห็นโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน ในประเทศไทยนั้น มีข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับการที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ซึ่งสมเด็จฮุน เซน เคยกล่าวถึงประเด็นผู้แสดงความคิดเห็นชาวไทยบางกลุ่มในลักษณะดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “Thai Army กองทัพไทย” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม
ในโอกาสดังกล่าว พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ได้กล่าวกับกำลังพลว่า “ที่นี่คือเขตแดนของประเทศไทยตามแผนที่ 1:50,000 อันเป็นสถานที่ที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เป็นที่มั่นของพวกเรา ถอยไม่ได้ ไม่สามารถอนุโลมได้ ไม่ได้ก็คือต้องไม่ได้ สิ่งที่ทำมานั้นถูกต้องแล้ว ขอขอบใจผู้บังคับหมู่ ผู้บังคับหมวด รุ่นพี่ทุกนายที่ดูแลน้องๆ ไปจนถึงน้องๆ ทหาร และอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นนักรบที่ต้องดูแลความมั่นคงของประเทศชาติ รักษาอธิปไตยในบริเวณแห่งนี้ เป็นความรับผิดชอบโดยแท้จริง และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติบ้านเมือง
ขอให้พวกเราทุกนายได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบนี้ ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเรา ปราสาทตาเมือนนี้อยู่กับพี่น้องประชาชนคนไทยมาตั้งแต่ตั้งประเทศไทย แม่ทัพเชื่อมั่นในตัวพวกเราทุกคนว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดียิ่ง ขอให้ตระหนักเสมอว่าผู้บังคับบัญชา แม่ทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด อยู่กับพวกเราตลอด เฝ้าติดตามให้กำลังใจเสมอ ดังนั้น เราอยู่ที่นี่อย่าได้ประมาท อาจเกิดเหตุการณ์ได้ทุกเมื่อ ขอให้ติดตามสถานการณ์ มีแผนเผชิญเหตุทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกลางวันและกลางคืน และดูแลสุขภาพตนเองให้ดี”
ติดตาม The Thaiger บน Google News: