บทเรียนราคาแพง โกหกหมอทำศัลยกรรม สวยได้ชั่วโมงเดียว สุดท้ายปากเบี้ยว

อุทาหรณ์หนัก ชาวเน็ตแชร์ประสบการณ์ แฟน โกหกหมอศัลยกรรมว่าไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ กลัวไม่ได้ผ่าจมูก-คาง สุดท้ายปากบวม เลือดนองหน้า
อีกหนึ่งบทเรียนราคาแพง กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Lakkana Chaiyaphan โพสต์เล่าประสบการณ์เฉียดตายของแฟนตัวเอง หลังตัดสินใจไปทำศัลยกรรมจมูกและคาง เนื่องจากไปโกหกหมอว่าไม่เคยฉีดฟิลเลอร์จมูกและคางมาก่อน เพราะกลัวว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพราะแค่ทำคาง-จมูก ก็สูงถึง 40,000 บาทแล้วและอาจถึงขั้นไม่รับทำเคสเลยก็มี โดยมีลักษณะเหตุการณ์ดังนี้
“ก็ตัดสินใจทำคางกับจมูกเสร็จหน้าเปลี่ยนสวยขึ้นทุกคนทัก แต่สวยได้แค่ 1 ชั่วโมง เริ่มเจ็บคาง คางเริ่มบวมจนนอนไม่ได้ บวมจนปากเบี้ยวเลยถ่ายรูปส่งให้ให้คุณหมอดู หมอเลยโทรฯ มาให้ไปคลินิกด่วนจะถอดคางออก เพราะคุณหมอบอกว่าระหว่างทำคางกับจมูกเขาเห็นฟิลเลอร์ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา แต่เราบอกไม่เคยฉีดหมอเขาเลยทำให้
เวลาเที่ยงคืนหมอไปเปิดคลินิกรอ เรารีบพาแฟนไปกับน้องสาวไปปรึกษากับหมอ หมอบอกว่าขอถอดทั้งจมูกและคาง ออกให้หมดเพื่อป้องการติดเชื้อวินาทีในการถอด หมอและผู้ช่วยเกือบ 6-7 คน ที่ทำการถอดให้แฟนบอกเจ็บสุด ๆ เลือดไหลเต็มหน้าเต็มปากงัดปากงัดจมูก เดี่ยวก็ฉีดยา เพื่อที่จะหาฟิลเลอร์ให้เจอ เกือบ 3 ชั่วโมงทำวนเวียนอยู่แบบนี้ จนหมดแรงหมอต้องเรียกหมอมาเพิ่ม ความดันก็ขึ้น 200 ความถี่

วินาทีนั้นเรากับน้องสาวทั้งกลัวทั้งสั่นนั่งไม่ติด เห็นหมอมาถามหมอทุกรอบหมอบอกว่าถ้าเลือดไหลไม่หยุดต้องส่งโรงพยาบาลใหญ่ แฟนกลัวและเกร็งไปหมด หมอก็ทำไปค่อยป้อนยาลดความดันอยู่เรื่อย สุดท้ายก็เสร็จ พอแฟนเดินออกจากห้องผ่าตัด วินาทีนั้นขาสั่นมือสั่นก้าวเท้าเกือบไม่ออกอยากจะปล่อยโฮตั้งแต่วินาทีนั้น แต่เราต้องเข้มแข็งเพื่อที่จะเข้าไปปลอบแฟนว่าไม่เป็นไรนะ
ร้องไห้หนักมากในห้องน้ำคนเดียวสงสารแฟนมาก ๆ ไม่อยากให้เขาต้องเจอสภาพแบบนี้เลย แต่สภาพหน้าตอนที่เห็นไม่มีชิ้นดีเลยเขียวช้ำและบวมทั้งหน้า นี้คือผลที่ได้ถ้าพูดความจริงไปตอนนั้น เพิ่มเงินอีก 2-3 หมื่น ค่าขูดตอนนี้ก็สวย ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตอนทำแค่ไม่กี่นาทีไม่แม้จะรู้สึกเจ็บ แต่ตอนถอดออก 3 ชั่วโมงเหมือนตายทั้งเป็น

บทเรียนที่น่ากลัวที่สุด แต่ก็ยังโชคดีคุณหมอเขาจะดูแลเราต่อ เมื่อไหร่ที่จมูกแลคางหาย หมอจะทำการเสริมให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แค่ต้องมีค่าขูดซิลิโคนออก สิ่งสุดท้ายขอบคุณแฟน ขอบคุณน้องนุศไม่เคยทิ้งกันแม้แต่วินาทีเดียว คอยเป็นกำลังใจให้กันตลอด ทำให้เรามีกำลังสู้ต่อรักษาหน้าตอนนี้ให้หายก่อน ขอบคุณแตกับน้องมิ๊กด้วยที่หาข้าวหาน้ำ เพราะลุกไม่ได้เลยตอนนี้”
ขณะเดียวกัน เจ้าของโพสต์ได้อัปเดตอาการวันที่ 4 ของคุณแฟนหลังถอดซิลิโคนตามเหตุการณ์ข้างต้นว่า ตอนนี้กำลังใช้สายรัดหน้าลดอาการบวม กินข้าว-ยาก็จะหลับ พร้อมให้กำลังใจสุดที่รัก “สู้ ๆ นะค่ะ เดี๋ยวก็หายแล้ว”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อุทาหรณ์ ครูสาว คลำเจอก้อน-เจ็บหน้าอก คาดเป็นถุงน้ำ ก่อนช็อก ป่วยมะเร็งเต้านม
- แม่เล่าอุทาหรณ์ ลูกตาบอดสนิท หลังถูกญาติติดเริมจูบ หวั่นเกิดซ้ำกับเด็กคนอื่น
- อุทาหรณ์ หนุ่มเผาลูกเปตอง สุดท้ายระเบิดสนั่น ทะลุหลังคาห้องนอน