4 หญิงไทย เปิดกระบวนการจีนเทาสุดสยอง หลอกสาวไทยไปอุ้มบุญ บังคับรีดไข่ ราวกับเป็นฟาร์มมนุษย์ มีเหยื่ออีกร่วมร้อยชีวิต
เมื่อวานนี้ (3 กุมภาพันธ์) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและศตรี ได้นำเหยื่อหญิงสาวชาวไทย 3 คน มางานแถลงข่าว หลังได้รับความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานจนสามารถนำตัวออกจากประเทศจอร์เจียมาได้เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา
เริ่มจาก นางสาวนา (นามสมมติ) เะอเป็นคุณแม่ลุก 1 ที่ต้องการหาอาชีพเสริมเพื่อช่วยสามีใช้หนี้ และเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน เธอจึงหางานผ่านโลกออนไลน์ จนไปเจอเฟซบุ๊กหนึ่งที่ประกาศว่า “มีงานสำหรับผู้หญิง รายได้ 4-6 แสนบาท” เธอจึงติดต่อไป ซึ่งแอดมินเพจดังกล่าวแจ้งว่า เป็นงานอุ้มบุญที่ถูกกฎหมายในประเทศจอร์เจีย พร้อมกับอ้างว่าพ่อแม่ชาวต่างชาติที่อยากมีลูกนั้นจะมาเซ็นสัญญา ดูแลอย่างดี มีที่อยู่ที่กินอย่างสบาย แถมออกค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ตและการเดินทางทั้งหมด ใช้เวลาแค่เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
หลังจากทำพาสปอร์ตและนัดเดินทางวันที่ 30 สิงหาคม น.ส.นา ได้เดินทางไปที่สนามบินอู่ตะเพา โดยมีสาวไทยอีก 10 พร้อมกับคนนำทางึคนไทยอีก 1 คน รวม 12 คน โดยที่แต่ละคนไม่รู้จักกัน ซึ่งคนนำทางให้เงินติดตัวไปคนละ 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,000 บาท) โดยอ้างว่าเอาไว้โชว์ตอนตม.ตรวจ เมื่อเครื่องลงจอดที่สนามบินดูไบ ยูเออี ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องไปลงที่อาร์เมเนีย
ต่อมา คนนำทางพาทุกคนไปนอนค้างที่โรงแรม 3 คืน และพาไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ โดยวันที่ 4 จึงพาไปขึ้นรถไฟเข้าประเทศจอร์เจีย ใช้เวลาเดินทางกว่า 10 ชั่วโมง เมื่อเดินทางไปถึงก็เข้าพักโรงแรม 1 คืน แต่กลายเป็นว่าคนนำทางยึดพาสปอร์ตของทุกคนเอาไว้ และพาไปบ้านหลังหนึ่งที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ ใหญ่ถึงขนาดที่ในบริเวณนั้นมีข่าวอยู่ถึง 4 หลัง
วันถัดมา น.ส.นา ถูกนำตัวไปที่บ้านหลังที่ 1 ก่อนที่จะพบว่าในบ้านหลังนั้นมีสาวไทยอยู่รวมกันกว่า 60 คน บางรายมีสภาพทรุดโทรม บางคนนั่งร้องไห้อยากกลับบ้าน วันต่อมา เธอต่อมา เธอถูกพาย้ายไปยังบ้านหลังที่ 2 ในบ้านหลังนี้มีสาวไทยอยู่ 10 กว่าคน ซึ่งถ้ารวมบ้านทั้ง 4 หลัง มีสาวไทยถูกจับมารวมตัวกันมากกว่า 100 คน และทั้ง 4 หลังมีคนจีนเข้า-ออกตลอดเวลา
เธอเล่าต่อว่า หญิงคนไทยเหล่านี้ถูกหลอกมาให้อุ้มบุญ แต่ไม่มีพ่อแม่ต่างชาติมาเซ็นสัญญาอุ้มบุญ โดยที่ทุกคนถูกบังคับให้ขายไข่ ซึ่งคนที่ยอดจะถูกรีดไข่ทุกเดือน โดยมีคนจีนเป็นคนฉีดยากระตุ้นการตกไข่เพื่อให้ไข่ตกหลายใบ ก่อนที่จะถูกวางยาสลบแล้วใช้เครื่องมือดูดไข่ออกมา โดยที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเด็กทารกที่จะเกิดมา
ส่วนคนที่ไม่ยอมทำและอยากกลับบ้าน ก็จะถูกเรียกค่าไถ่ตัว ซึ่งอ้างว่าเป็นค่าเดนิทางและค่ากินอยู่ ตีเป็นเงินไทยรวมกว่า 50,000 – 70,000 บาทต่อคน ทำให้สภาพที่สาวไทยเหล่านั้นเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ส่วนตัวของ น.ส.นา เมื่อรู้ว่าถูกหลอกและไม่ยอมรีดไข่ เธอจึงติดต่อให้ญาตินำเงินมาไถ่ตัวเธอ 70,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีคนในขบวนการนี้ที่คาดว่าจะเป็นหัวหน้า พร้อมให้ญาติประสานมูนิธิปรีณาฯ เพื่อช่วยเหลือเธอและเพื่อนคนไทยอีก 3 คนที่อยากกลับบ้าน แต่ไม่มีเงินไถ่ตัวเองออกไป
สุดท้าย น.ส.นา ก็ได้รับการปล่อยตัว และเดินทางกลับมายังประเทศเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา
หลังจากที่ทราบเรื่อง มูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ ให้พาตัว น.ส.นา มาก่อนเพื่อให้ข้อมูล ก่อนที่ทีมงานตำรวจสากลไทยจะประสานกับตำรวจสากลระหว่้างประเทศ นำกำลัง 30 นายเข้าช่วยเหลือ 3 สาวไทย จนสามารถพาตัวออกจากบ้านหลังดังกล่าวได้สำเร็จ
ทั้งนี้ บ้านพักทั้ง 4 หลังนั้นมีคนอยู่ข้างในหลังละ 60 คน ซึ่งประกอบธุรกิจค้ามนุษย์ ขายไข่สืนพันธุ์ ส่งต่อไปยังประเทศที่สามเพื่อนำไปทำเด็กหลอดแก้ว รวมไปถึงยังมีการขายอวัยวะต่าง นอกจากนี้ ทารกที่เกิดมาบางรายอาจถูกเก็บสเต็มเซลล์ เพื่อนำไปใช้รักษาโรค ซึ่งมีความเสี่ยงที่เสียชีวิต
ปัจจุบัญ เหยื่อหญิงไทยทั้ 4 คน อยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ที่เซฟเฮ้าส์ เนื่องจากถูกขู่ฆ่า พร้อมยังยังขอให้รัฐบาลไทยประสาบกับรัฐบาลจีน ในการเข้าตรวจสอบเส้นทางการค้ามนุษย์นี้ ที่มีกลุ่มจีนเทาที่อาศัยอยู่ในไทยคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงการเข้าช่วยเหลือหญิงไทยอีก 100 ชีวิต ที่กำลังตกเป็นเหยื่ออยู่ที่นั่น
อ้างอิง : Facebook มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี , www.kapook.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อ๋อม สกาวใจ แฉตัวการสร้างฝุ่น PM 2.5 เผาขยะริมถนนไม่กลัวกฎหมาย
- อาการยังสาหัส เด็ก 9 ขวบ เหยื่อจระเข้งับมือ ร้านปัดชดเชย อ้างมีป้ายเตือน
- สั่งตัดไฟเมียนมา จับท่าที ภูมิธรรม-อนุทิน มุมรังสิมันต์ โรม ชี้ต้องทำ 3 จุดนี้
ข่าวล่าสุด
