ข่าว

โดน 4 ข้อหา เก๋งไม่หลบให้รถกู้ชีพ แช่ขวา สุดท้ายไปไม่ทัน ผู้ป่วยตาย

ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา หญิงวัย 52 ปี คนขับรถเก๋งแช่ขวาไม่หลบให้กู้ภัย สุดท้ายไปไม่ทัน ผู้ป่วยเสียชีวิต เจ้าตัวอ้างไม่เห็น ไม่รู้ว่าอยู่เลนไหน

จากกรณีที่ปรากฎภาพและคลิปกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบเหตุฉุกเฉิน ขณะขับบนถนนแพรกษา มุ่งหน้าคลองเก้า ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จนมาถึงโค้งโรงแก้วก่อนวัดแพรกษา มีรถเก๋ง วิ่งเลนขวาสุดไม่หลบรถกู้ชีพ จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เนื่องจากไปไม่ทัน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนหน้านี้นั้น

Advertisements

ล่าสุด สภ.เมืองสมุทรปราการ เชิญตัวหญิง วัย 52 ปี ผู้ขับรถเก๋ง มาสอบถามโดยอ้างว่า ตนเห็นรถพยาบาลแล้ว ได้ยินเสียงมาด้านหลัง แต่ไม่รู้ว่าอยู่เลนไหน ตนคิดว่ารถกู้ชีพจะหลบซ้าย ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะขวางหรือไม่หลบรถกู้ชีพ หลังจากตำรวจติดต่อไปตนจึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา ไม่หลบให้รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และ เจ้าที่ตำรวจยังฝากเตือนกรณีไม่หลบรถฉุกเฉินจนเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วย ที่อยู่ในรถถึงแก่ชีวิต อาจมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

ขณะที่ นายนครินทร์ รัตนประภาสชรา เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากที่ตนรับแจ้งเหตุว่ามีผู้ป่วยหมดสติ ตนจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงโค้งโรงแก้ว ถนนแพรกษา รถเก๋งคันดังกล่าวขับขวางอยู่ในช่องทางขวา

ตนจะหลบทางซ้าย แต่หลบไม่ได้เพราะมีรถมอเตอร์ไซด์ขวางอยู่ ถ้าตนเบี่ยงก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งรถเก๋งขวางไปจนถึงซอย 7 แพรกษา ตนบีบแตรส่งสัญญาน ประกาศใส่ไมค์ เปิดไฟฉุกเฉิน รถคันดังกล่าวก็ไม่หลบ และ ยังมีการเบรกเป็นระยะด้วย

จนขับมาถึงบริเวณปากซอยพุฒสี (ปากซอย 7 แพรกษา) ตอนนั้นมีทางเบี่ยงซ้ายจึงขับเบี่ยงขึ้นมา ทางคนขับรถคันดังกล่าวก็มีการมองหน้าเรา คนขับมีลักษณะเป็นผู้ชายวัยกลางคน ตอนเราไปถึงตัวผู้ป่วย ผู้ป่วยก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว เราไปไม่ทัน

Advertisements

นายนครินทร์ ขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ว่าถ้าหากมีรถพยาบาลที่เปิดสัญญาณไฟและเสียงขอทาง ได้โปรดช่วยให้ทางด้วย เพราะมันส่งผลต่อการสูญเสียของผู้ป่วยหรือผู้ประสบเหตุที่เรากำลังไปรับ เคสนี้เราได้อธิบายให้ทางญาติผู้ป่วยฟังแล้วในสาเหตุ ทางญาติก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button