เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร แจ้งจับ แม่น้องชมพู่ บ้านกกกอก บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนกว่า 5 ไร่ ใช้ปลูกพืชที่แฟนคลับส่งมาให้ ล่าสุดถูกสั่งรื้อถอน-ออกจากพื้นที่แล้ว
วันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมาเพจ เจ๊มอย V+ โพสต์ข้อความในหน้าเพจระบุว่า “โดนแล้วคุณนายกกกอก !! กรมป่าไม้ยึดพื้นที่คืนแจ้งจับ แม่น้องชมพู่ บุกรุกที่ป่าสงวน 5 ไร่ 2 งาน ปลูกทั้งหวาย-กล้วย-ทุเรียน แบบฉ่ำๆ” พร้อมแนบภาพขณะเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร เข้าตรวจสอบพื้นที่ในใต้คอมเมนต์
ต่อมา นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้เปิดเผยว่า เนื่องจากมีการทำหนังสือการร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ปลัดทส. และอธิบดีกรมป่าไม้ ว่ามีพลเมืองดีร้องเรียนขอให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากพบมีการเข้ายึดครอบครองทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร
เมื่อส่งหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบแปลงที่ดิน เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูพาน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีการถือครองโดยบุคคลที่ 1 แต่ในปัจจุบันพบว่า นางสาวิตรี หรือ แม่น้องชมพู่ เข้ามาทำประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 โดยมีการปลูกต้นหวายหนามขาว, ต้นทุเรียนไม่ทราบชนิดพันธุ์, ต้นกล้วยน้ำว้า และต้นข้าวเหนียว ซึ่งแจ้งว่ามีแฟนคลับส่งมาให้ปลูก ทั้งผู้ครอบครองเดิมอ้างว่า ‘ไม่มีแรงที่จะทำกิน จึงให้ นางสาวิตรี ทำประโยชน์ในพื้นที่ต่อ’
เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้วพบว่า การกระทำของนางสาวิตรี ถือว่าเป็นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ถือว่า แม่น้องชมพู่ มีความผิด เพราะต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสิน ซึ่ง นางสาวิตรี สามารถนำพยานหลักฐานมาโต้แย้งได้ แต่ในส่วนของกรมป่าไม้ต้องตรวจยึดพื้นที่คืนตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้าแต ซัดแหลก ‘แม่น้องชมพู่’ แฉสามี คนในรู้หมด ลองโทษตัวเองบ้าง
- สรุปสาเหตุ ‘แม่น้องชมพู่’ เลิกสามี เก็บหลักฐานตลอด 1 ปี ผิดเองที่ไว้ใจ
- โหนกระแส เปิดใจ “แม่น้องชมพู่” เคลียร์ปมไม่ร้องไห้ ก่อนเล่าเอะใจลุงพลตอนไหน
อ้างอิงจาก : FB เจ๊ม้อย v+, โหนกระแส
