แจงดราม่า ไทยถอนข้อสงวนข้อ 22 อนุสัญญาสิทธิเด็ก หวั่นเด็กต่างด้าวได้สัญชาติไทยทันที
แจงข้อเท็จจริง ไทยถอนข้อสงวนข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ยกระดับการคุ้มครองเด็ก ทำให้เด็กพม่า ต่างด้าวเกิดในไทยได้สัญชาติไทยอัตโนมัติ
วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีประชาชนไทยบางส่วนเกิดข้อกังวล หลังมีข่าว ประเทศไทยได้ถอนข้อสงวนข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิของเด็กผู้ลี้ภัย จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคมว่าจะส่งผลให้เด็กต่างด้าวทุกคนในประเทศไทยได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ
ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงว่า การถอนข้อสงวนดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าเด็กต่างด้าวจะได้รับสัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ แต่เป็นการรับรองว่าเด็กผู้ลี้ภัยจะได้รับการคุ้มครองและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้ในอนุสัญญา
ข้อ 22 ของอนุสัญญาระบุว่า รัฐภาคีจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อประกันว่าเด็กที่ร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยจะได้รับการคุ้มครองและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ไม่ว่าจะมีผู้ปกครองหรือไม่ก็ตาม
ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตั้งแต่ปี 2531 และเป็นหนึ่งใน 196 ประเทศที่เป็นภาคีของอนุสัญญานี้ ซึ่งถือเป็นอนุสัญญาที่มีภาคีมากที่สุดในโลก
การถอนข้อสงวนครั้งนี้เป็นผลมาจากการศึกษาข้อกฎหมายและการทำงานร่วมกับนานาประเทศในการช่วยกันจัดหาแหล่งที่อยู่อาศัยและการอพยพถิ่นฐานของผู้ลี้ภัย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการให้สัญชาติแก่คนต่างด้าวยังคงเป็นไปตามกฎหมายภายในประเทศ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการถอนข้อสงวนครั้งนี้
ดังนั้น การถอนข้อสงวนดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการคุ้มครองสิทธิเด็กให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยไม่ได้ส่งผลต่อนโยบายการให้สัญชาติแต่อย่างใด
ขณะที่เพจ Drama-addict ได้กล่าวว่า “ประเด็นที่กลัวเรื่องคนต่างชาติจะมายึดสัญชาติไทยนั่น ไม่น่ากังวลในข้อสงวน 22 นี่ครับ คนละประเด็นกัน ถ้ากังวลเรื่องนั้น ห่วงเรื่องพวกจ้างแม่อุ้มท้องเพื่อซื้อสัญชาติดีกว่า แบบที่เสี่ยชูวิทย์แฉว่ามีจีนเทาจ้างคนไทยตั้งท้องให้พ่อเป็นคนจีนแล้วให้ลูกคลอดมามีสัญชาติไทยอ่ะ อันนั้นสิน่ากลัวสัสๆเลย
ส่วนเรื่องที่กลัวแรงงานต่างด้าวจะมายึดบางพื้นที่นี่ อันนั้นที่ต้องกังวล คือการทุจริตซื้อขายบัตรประชาชน สวมชื่อคนตายให้ต่างด้าว และปลอมบัตรทองให้แรงงานต่างด้าว ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังคือคนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 กรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้ประกาศว่า ประเทศไทยได้ยื่นตราสารถอนข้อสงวนของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อ 22 ว่าด้วยการคุ้มครองเด็กผู้ลี้ภัยและเด็กผู้แสวงหาที่พักพิง แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นต่อการปกป้องคุ้มครองสิทธิของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เห็นชอบต่อการถอนข้อสงวน ข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ว่าด้วยการคุ้มครองเด็กผู้ลี้ภัยและเด็กผู้แสวงหาที่พักพิง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เหตุด้วยไทยได้ดำเนินการปกป้องคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานตามมาตราการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครอง และจัดบริการสำหรับเด็กผู้ลี้ภัยและเด็กผู้แสวงหาที่พักพิงมาอย่างต่อเนื่อง
กระทรวง พม. ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก จะได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อส่งเสริมและติดตามการเข้าถึงสิทธิของเด็กผู้ลี้ภัยและเด็กผู้แสวงหาที่พักพิง และประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้อง คุ้มครองและเติมเต็มสิทธิเด็กทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ทิ้งเด็กคนใดไว้เบื้องหลัง และที่สำคัญเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง