คนแก่อายุ 50 ควรออกกำลังกาย 3 อย่างนี้ แข็งแรง ไกลโรค อายุยืน
อายุ 50 แล้ว ต้อง “จิตแข็ง” 3 วิธีออกกำลังกาย แม้ทำแค่อย่างเดียวก็ยังแข็งแรง ไกลโรค อายุยืน
ในปัจจุบัน หลายคนที่เพิ่งอายุ 50 ปี ก็เริ่มมีสุขภาพที่ถดถอย นั่นเป็นเพราะว่าเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป หมายความว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่วัยชรา การทำงานของหัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อต่างๆ เริ่มเสื่อมถอยลง น่าเศร้ากว่านั้น คนส่วนใหญ่ยังไมตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ในระยะยาว ร่างกายก็จะเกิดปัญหาต่างๆ จากโรคภัยไข้เจ็บ
เคล็ดลับสำคัญของการมีชีวิตที่ดีคือการเคลื่อนไหว ในช่วงต้นปี 2020 เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 มีคุณหมอคนหนึ่งชื่อ ดร.ทรุง นัม ซอน ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า แม้ว่าเขาจะมีอายุ 86 ปีในขณะนั้น แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงแข็งแรง กระฉับกระเฉง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการให้สัมภาษณ์ ดร.ทรุง ได้แบ่งปันกับทุกคนว่า “ตอนที่ผมยังหนุ่ม ผมออกกำลังกายเพราะมันทำให้ร่างกายแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่วัย 50 การออกกำลังกายทุกวันก็เพื่อให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ตามปกติ และชะลอความแก่ ดังนั้น หากคุณหมั่นฝึกออกกำลังกาย 3 วิธีนี้เป็นประจำ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายของคุณป้องกันโรคภัยได้เท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุของคุณอีกด้วย”
1. เดินวันละ 40 นาที
ทำไมถึงบอกว่าการเดินง่ายๆ แบบนี้มีประโยชน์มากมายขนาดนั้น? เมื่อเราเดิน ไม่เพียงแต่ขาของเราจะเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่สมอง หัวไหล่ หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ก็เคลื่อนไหวไปด้วย ดังนั้น ดร.ทรุง แนะนำให้ทุกคนใช้เวลา 40 นาทีในการเดินหรือวิ่งเหยาะๆ ทุกวัน หากต้องการมีสุขภาพที่ดี การวิ่งเหยาะๆ ต้องใช้กำลังกายที่ดี และอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่หัวเข่า ดังนั้น ผู้ที่มีสมรรถภาพทางกายไม่แข็งแรง ควรเลือกการเดินเร็วทุกวันจะดีกว่า
2. ว่ายน้ำวันละ 200 เมตร
หลายคนคิดว่าการว่ายน้ำเหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ทุกเพศทุกวัยสามารถว่ายน้ำได้ ดร.ทรุง กล่าวถึงตัวอย่างในการสัมภาษณ์ว่า “มีคุณหมอท่านหนึ่งในกว่างโจว อายุยืนถึง 106 ปี เคล็ดลับของเขาคือการว่ายน้ำ 200 เมตรทุกวัน”
บางทีอาจเป็นเพราะว่ายน้ำเป็นกีฬาที่มีอัตราการบาดเจ็บที่หัวเข่าค่อนข้างต่ำ ไม่เพียงเท่านั้น การว่ายน้ำยังช่วยฝึกการหายใจ และช่วยพัฒนาการทำงานของหัวใจและปอดได้ในระดับหนึ่ง
3. ฝึกไทเก๊กทุกเช้า
วิธีนี้เหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุ ในวัยนี้ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายหลีกเลี่ยงความแก่ชราได้ยาก ดังนั้น การออกกำลังกาย เช่น การเดิน วิ่งเหยาะๆ หรือว่ายน้ำ อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุทุกคน
ช่วงเช้าตรู่ อากาศบริสุทธิ์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการฝึกไทเก๊ก การฝึกไทเก๊กช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น พัฒนากล้ามเนื้อ และการทรงตัว ป้องกันการหกล้มสำหรับผู้สูงอายุ
จากผลการวิจัยในวารสาร “American College of Cardiology” หากคุณต้องการให้หัวใจและหลอดเลือดของคุณแข็งแรงกว่าคนอื่นๆ จงหมั่นออกกำลังกาย หากคุณวิ่งเหยาะๆ เป็นประจำเป็นเวลา 6 เดือน ก็สามารถทำให้หลอดเลือดของคุณอ่อนเยาว์ลง 4 ปี เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยจำกัดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ จากวารสารทางการแพทย์ “Research on muscle deficiency syndrome” พบว่าหากคนเราไม่ออกกำลังกายเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อจะสูญเสียไปตามสัดส่วนหลังจากอายุ 30 ปี ยิ่งอายุมากขึ้น อัตราการสูญเสียก็จะยิ่งสูงขึ้น
การเดิน 10,000 ก้าวต่อวันสามารถชะลอความแก่ของสมองได้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตัน (สหรัฐอเมริกา) แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เดินน้อยกว่า 5,000 ก้าวต่อวัน มีสมองที่แก่เร็วกว่าผู้ที่เดิน 10,000 ก้าวต่อวัน ถึงสองเท่า
เพื่อที่จะมีอายุยืนยาว การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มออกกำลังกายทุกวัน ล้มหัวใจวายคาลู่วิ่ง คนงง เป็นไปได้ยังไง
- หนุ่มจีน อายุแค่ 28 เส้นเลือดสมองแตก เพราะชอบออกกำลังกายก่อนนอน
- “แอน สิเรียม” ปั้นหุ่นฟิตออกกำลังกาย ในวัย 52 ปี แฟนคลับชม สวยอมตะ