IGN โดนสับเละ หลังให้คะแนนรีวิว ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 4 แค่ 3/10

sorrawitเผยแพร่: 11 ก.ค. 2567 17:21 น.| อัปเดต: 11 ก.ค. 2567 17:21 น.

82 1 minute read

IGN เปิดสงครามกับแฟนอนิเมะทั่วโลก หลังให้คะแนนรีวิว ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 4 ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก แค่ 3/10 เพราะมองว่ามีแต่ฉากไร้สาระ

วันที่ 11 ก.ค. 67 ทาง IGN สื่อบันเทิงชื่อดัง ได้เปิดสงครามกับแฟนอนิเมะทั่วโลกอย่างเป็นทางการ หลังให้คะแนนรีวิว ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 4 ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก (Demon Slayer Season 4 Hashira Training Arc) แค่ 3/10 เท่านั้น

โดยทาง IGN ให้ความเห็นไว้ว่า “ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 4 ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก ทำให้มีความรู้สึกเหมือนเล่นเกม RPG ที่เราเดินไปคุยกับตัวละครต่างๆ ในแคมป์ เพื่อหวังว่าจะได้ยินบทสนทนาที่น่าสนใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าส่วนใหญ่ก็จะพูดอะไรทั่วๆ ไปแล้วก็เดินจากไป นั่นไม่ได้หมายความว่าการมีช่วงพักก่อนบทสรุปจะเป็นเรื่องไม่ดี แต่วิธีการนำเสนอของภาคนี้ มันทำได้ไม่ดีเอาซะเลย จนทำให้คิดถึงฉากต่อสู้ที่ยืดเยื้อจากซีซั่น 3 ด้วยซ้ำ”

“ส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของมังงะ ดาบพิฆาตอสูร คือการที่มันเป็นมังงะที่ไม่ยืดเยื้อ มีจังหวะที่กระชับและเน้นไปที่ช่วงเวลาสำคัญๆ ในขณะที่ Ufotable ผู้สร้างอนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร ได้ใช้แอนิเมชั่นเปลี่ยนฉากสั้นๆ ที่ดูธรรมดาให้กลายเป็นฉากที่สวยงามอลังการ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำได้แค่นั้น ในซีซั่นที่แล้ว พวกเขายืดเวลาด้วยฉากต่อสู้ที่ยาวนาน เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์และการเคลื่อนไหวของกล้องที่ทำให้ยากต่อการติดตาม ในซีซั่นนี้ ด้วยบทสรุปที่ใกล้เข้ามา แต่พวกเขาเลือกที่จะยืดช่วงเวลาแทนที่จะสรุปให้มันเป็นเพียงช่วงการฝึกสั้นๆ ในตอนต้นของภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดยิ่งใหญ่”

“ในทางทฤษฎีแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้น เพราะภาคการสั่งสอนของเสาหลักทำให้ผู้ชมได้ใช้เวลากับเหล่าเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูรมากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะต้องล้มตายลงในภาคต่อไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ เสาหลักมากนัก ยกเว้นสองตัวละคร คือ ฮิเมจิมะ เกียวเม เสาหลักหิน ที่มีการเล่าเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แม้ว่าการใช้ฉากย้อนอดีต ของเรื่องนี้จะดูซ้ำซากและเดาง่ายไปหน่อย และ กิยู ที่เรื่องราวในอดีตเชื่อมโยงกับซีซั่นแรกอย่างน่าสนใจ โดยนำ ซาบิโตะ ตัวละครที่น่าเศร้าจากช่วงแรกของเรื่องกลับมา แต่ส่วนใหญ่ของซีซั่นนี้เน้นไปที่การฝึกฝนซ้ำๆ ระหว่าง ทันจิโร่ กับ เสาหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นตัวละครที่ไม่มีมิติอะไรมากไปกว่ารูปแบบการหายใจของพวกเขา นี่ยังไม่รวมถึงภารกิจย่อยที่ไม่จำเป็นและไร้สาระที่ ทันจิโร่ ต้องทำเพื่อยกระดับจิตใจของเสาหลัก เช่น การท้า มูอิจิโร่ โทคิโตะ เสาหลักหมอก แข่งเครื่องบินกระดาษเพื่อให้เขาใจดีกับผู้เข้ารับการฝึกคนอื่นๆ การทุ่มเทเวลาครึ่งตอนให้กับผู้ชายสองคนที่พับกระดาษแล้วโยนเครื่องบินขึ้นไปในอากาศ ควรจะเป็นสัญญาณว่าคุณทำเกินไปแล้ว”

“มันน่าเจ็บปวดเป็นพิเศษเมื่อตัวละครที่ควรจะได้รับความสนใจและการพัฒนา กลับไม่มีบทบาทอะไรเลย ในตอนแรก เราได้รู้ว่าหน่วยพิฆาตอสูรกำลังทำการฝึกฉุกเฉินนี้เพราะ เนซึโกะ ปลดล็อคความสามารถพิเศษที่ทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของเหล่าอสูรทั่วโลก แต่เธอปรากฏตัวเพียงในตอนนั้น และมีบทพูดเพียงเจ็ดคำเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของมุกตลก เป็นเวลาสี่ซีซั่นแล้วที่เราถูกทำให้เชื่อว่า เธอมีความสำคัญ แต่อนิเมะกลับทิ้งโอกาสที่จะแสดงให้เห็นว่าทำไม หรือทำให้เราสนใจตัวละครนี้ แน่นอน บางทีอาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องในมังงะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าความซื่อสัตย์ต่อต้นฉบับคือสิ่งที่อนิเมะพยายามทำ ทำไมเราต้องยืด 11 ตอนของมังงะให้กลายเป็นอนิเมะเกือบ 10 ชั่วโมง ซึ่ง 10 นาทีในนั้น (ขอพูดซ้ำอีกครั้ง) เป็นการแข่งเครื่องบินกระดาษ?”

“ในตอนจบ ที่ในที่สุดเราก็ได้เห็น คิบุทสึจิ มุซัน ตัวร้ายหลักของเรื่อง ลงมือทำอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ใช่การต่อสู้ หรืออะไรที่น่าตื่นเต้น แทนที่จะเป็นแบบนั้น กลับมีฉากที่ มุซัน เดินแบบสโลว์โมชั่นไปที่บ้านของหัวหน้าหน่วยพิฆาตอสูร ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่ดูเกินพอดีและไร้ประโยชน์ที่สุดที่ถูกสร้างเป็นอนิเมะในปีนี้ แน่นอนว่ามันดูอลังการ และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Ufotable สามารถเปลี่ยนฉากที่ผู้ชายคนหนึ่งเดินช้าๆ ให้กลายเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นได้ แต่มันก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า ดาบพิฆาตอสูร พยายามมากเกินไปที่จะสร้างความสำเร็จครั้งแรกซ้ำอีกครั้ง ตอบสนองความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลว่าทุกช่องที่ไม่สำคัญจากมังงะจะถูกเปลี่ยนเป็นอนิเมชั่นที่น่าทึ่ง ในทางกลับกัน ฉากในตอนจบที่ มุซัน ถูกระเบิดจนแหลกเหลวและค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ เพียงเพื่อจะถูกแทงด้วยหอกเลือดหลายอันในขณะที่หัวของเขาระเบิดนั้น ไม่เพียงแต่ดูน่าสยดสยองเท่านั้น แต่ยังดูดีกว่าฉากอื่นๆ ในซีซั่นนี้มาก นั่นแหละคือปัญหาของภาคการสั่งสอนของเสาหลัก มันมีช่วงเวลาที่ดีจริงๆ แม้แต่ในฉากฝึกที่น้ำตกที่ อิโนะซึเกะ เกือบจะจมน้ำนั้นก็ตลกมาก แต่มันถูกกลบด้วยการยืดเรื่องที่ไม่จำเป็นจนหมดเลย”

หลังจากที่รีวิวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีแฟน ๆ อนิเมะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก จนคอมเมนต์บนเฟซบุ๊กทะลุ 3,000 ครั้งเข้าไปแล้ว โดยความเห็นแฟน ๆ อนิเมะ บางส่วนได้ระบุไว้ว่า

ฉันว่ามันปูทางไปสู่ภาคปราสาทไร้ขอบเขต และทำให้ตัวละครอื่นๆ มีมิติมากขึ้นด้วยนะ แถมนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นอะไรมีความสุขจากเรื่องนี้ไปอีกนานเลย ดังนั้นสำหรับฉัน ซีซั่นนี้ทำชิลๆ ก็โอเคเลยนะ แถมตอนสุดท้ายก็คือ Ufotable ทำออกมาได้เทพมาก
ฉันสนุกที่ได้รู้จักเหล่าเสาหลักมากขึ้น ฉันคิดว่านี่เป็นซีซั่นที่ดีเลยนะ
ชอบซีซั่นนี้มากเลยนะ โดยเฉพาะมุกตลกๆ หลายอันเลย แล้วตอนจบก็คือดีมากกกก รู้สึกว่าทั้งซีซั่นปูทางมาเพื่อตอนจบนี้เลย!
ก็ใช่ที่จังหวะการเล่าเรื่องมันก็เฉื่อยลงไปบ้าง แต่มันก็เป็นภาคที่สำคัญสำหรับปูทางไปภาคสุดท้าย ดังนั้นคะแนนจริงๆ มันไม่ควรจะเป็น 3/10 ด้วยซ้ำ
พวกนายบ้าไปแล้ว! จริงอยู่ที่มันอาจจะเนือยๆ ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ตอนจบคือดีงามมาก! แล้วที่กำลังจะตามมาคือแบบ สุดปัง! เอาจริงๆ ให้คะแนน 3 นี่น้อยไปนะ ให้ 7.5 ยังได้เลย ฮ่าๆ
ลองหาใครสักคนที่ IGN ที่ชอบมันดูสิ สำหรับ Demon Slayer ในที่สุดก็มีซีซันที่ผ่อนคลาย “ความสงบก่อนพายุ” เป็นการดำเนินเรื่องที่ดีมากเลยนะ ฉันสนุกกับทุกนาทีของซีซันนี้ เพราะตอนนี้ฉันแทบจะรอให้หนังภาคแรกฉายไม่ไหวแล้ว
พวกเขามองข้ามประเด็นสำคัญไปนะ จุดประสงค์ของเนื้อเรื่องช่วงนี้คือการปูทางไปสู่บทสรุปสุดท้าย การต่อสู้ครั้งสุดท้ายมันดุเดือดมาก และช่วงการฝึกฝนก็เป็นวิธีที่ดีในการเน้นให้เห็นว่าทุกคนแข็งแกร่งขึ้นและมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นก่อนที่จะถึงบทสรุป
ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ซีซั่นที่น่าตื่นเต้นที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าอย่างน้อยทีมงานก็ตระหนักแล้วว่าพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างโมเมนตัมและพัฒนาตัวละครสำหรับเนื้อเรื่องในส่วนต่อไป การฆ่าตัวละครที่ไม่มีเรื่องราวภูมิหลัง ความเกี่ยวข้อง หรือความผูกพันกับผู้ชมออกไปมันไม่มีประโยชน์เลย และนั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้ Ign ก็ยังคงไม่รู้อะไรเหมือนเดิม
IGN ให้คะแนน She-Hulk ตั้ง 8/10 งั้นพวกนายหุบปากไปเถอะ”