ด่วน! เร่งหาตัว ‘แบงค์’ รอง ผอ.โรงเรียนลำพูน หายตัวปริศนาขาดการติดต่อ 9 วัน
เร่งหาตัว ฤชา ใจสันติ หรือ แบงค์ รอง ผอ.โรงเรียนลำพูน หายตัวปริศนาขาดการติดต่อ 9 วัน พ่อคาดอาจจะมีความเครียดส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายฤชากร ใจสันติ หรือ แบงค์ รองผอ. และรักษาการ ผอ.โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา รวมแล้วเป็นระยะเวลากว่า 9 วัน
โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กล้องสามารถจับภาพรถของนายฤชา ใจสันติ หรือ “แบงค์” รอง ผอ. และรักษาการ ผอ.โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้รวมกว่า 9 วันแล้ว
ทางญาติได้มีการแจ้งความคนหายเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาซึ่งทางตำรวจชุดสืบสวนได้ แกะรอยจากกล้องวงจรปิดหลายจุดในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
โดยเบื้องต้นได้สรุปไทม์ไลน์ เริ่มจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 ออกจากบ้านสันทราย ไปโรงเรียน
-เวลา 08.49 น. กล้องวงจรปิดจับภาพรถได้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ มุ่งหน้าลำพูน
-เวลา 10.02 น. กล้องวงจรปิดจับภาพรถได้ที่ไชยสถานสารภี ขาเข้าเชียงใหม่
-เวลา 12.11 น.กล้องวงจรปิดของปั้มน้ำมันปตท.รถเก๋ง สีบรอนเทายี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข 6610 ลำพูน ของนายฤชา ได้ รแวะเติมน้ำมัน ที่ปั้มปตท.เขตตำบลหนองหนาม อำเภอเมืองจังหวัดลำพูน แต่พอตกเย็น นายฤชา ไม่กลับบ้าน ญาติจึงโทรตามหา
ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย.67 แจ้งความคนหาย และพยายามโทรติดนายฤชา แต่ไม่รับสาย จนกระทั่ง เวลา 08.08 น.ไม่สามารถติดต่อได้ พบสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย อยู่ที่บริเวณถนนลำพูน-เชียงใหม่สายใน หมู่ที่ 2 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และกล้องวงจรปิด ก็ไม่สามารถจับภาพได้อีกเลย
จากการพูดคุยกับ นายเฉลิม ใจสันติ พ่อของนายฤชา ที่หายตัวไป บอกว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ชอบทำบุญ
ส่วนตัวคาดว่าการหายตัวไปของลูกชาย น่าจะเกิดจากความเครียดสะสมปัญหาในที่ทำงาน หลังจากเมื่อหลายเดือนก่อน ได้ย้ายจากโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ไปทำงานในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวี เขตเทศบาลเมืองลำพูนชั่วคราว ได้เกิดปัญหาเจ้าหน้าที่การเงินคนหนึ่ง นำเอกสารการเบิกเงินงบประมาณของโรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวีมาให้เซ็นเพื่อเบิกเงิน กว่า 1 แสนบาท แต่หลังจากเบิกเงินไปแล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เชิดเงิน หลบหนีไป เคยเล่าให้คนใกล้ชิดฟังโดยกลัวจะจะต้องถูกดำเนินคดี และหวั่นใจถูกให้ออกจากราชการทำให้เกิดความเครียดสะสม
ส่วนตัวตนในฐานะคนเป็นพ่อ คิดว่าเงินจำนวนนี้ยังพอมีทางออกที่จะแก้ปัญหาได้ และคิดว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ หากทราบว่าขอให้กลับมาแก้ปัญหา ส่วนลูกชายจะไปไหนนั้นยังไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะหลบไปปฏิบัติธรรมที่ไหนซักแห่ง เพราะลูกชายเป็นคนชอบทำบุญชอบปฏิบัติธรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปาฏิหาริย์รักแท้ ภรรยาหายตัว 31 ปี สามีไม่หมดหวัง สุดท้ายเจอในบ้านพักคนชรา
- จนท. ยุติค้นหาตัว ‘ครูเต้ย’ หายตัวเขื่อนศรีนครินทร์ หลังค้นหา 3 วันติด