ข่าว

เหยื่อร่ำไห้ โต้อดีตพระฉาว จงใจปล่อยคลิปสยิว เชื่อตั้งใจขู่เหยื่อคนอื่นให้ไม่กล้าแจ้งความ

อดีตพระสำนักดัง ลัทธิถวายตัวเพชรบูรณ์ แพร่คลิปสยิวส่งกลุ่มสื่ออ้างเหยื่อสมยอมเอง ผู้เสียหายโต้ทั้งน้ำตา ไม่เป็นความจริง ถูกสั่งให้ทำเพื่อเสริมพลัง ต้องทำหน้ายิ้มและดูสนุก เหตุเคยหลงเชื่ออย่างไร้สติ

ความคืบหน้าหลังจากวันนี้ (13 มิ.ย.) เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาเหยื่อซึ่งเป็นผู้เสียหาย กรณีถูกอดีตพระเกจิชื่อดังใน จ.เพชรบูรณ์ ลวงทำพิธีถวายตัว โดยวันนี้ หญิงผู้เสียหาย 2 ราย และผู้ชาย 1 ราย ได้แจ้งความเอาผิดอดีตพระรูปดังกล่าวแล้ว หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีสื่อข่องหนึ่งเปิดภาพวาบหวิวของเหยื่อ โดยที่ไม่เป็นความจริง และทำให้เหยื่อทุกข์ใจอย่างหนัก

ผู้เสียหายเล่าทั้งน้ำตา กรณีที่วันนี้มีสื่อช่องหนึ่งเผยแพร่คลิปหญิงสาวลักษณะเปลือยกายและมีพฤติกรรมที่เป็นลักษณะโป๊เปลือยนั้น ผู้เสียหายชี้แจ้งว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปตอนที่อีกฝ่ายวิดีโอคอลมาหา แต่ภาพที่เผยแพร่ออกไป มีการจงใจปิดบังใบหน้าของผู้ก่อเหตุ

อีกทั้งบางคลิปยังเป็นการตัดต่อ และอดีตพระสงฆ์ได้มีการสั่งให้ผู้เสียหายถ่ายไป โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการดึงพลังทางกายแล้วต้องทำหน้ายิ้ม ห้ามมีข้อสงสัยใด ๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่สำเร็จผล

เหยื่อยังเผยด้วยว่า ก่อนจะตัดสินใจออกมาแฉเรื่องทั้งหมด อีกฝ่ายเคยนำเอาคลิปของลูกศิษย์ผู้หญิงคนอื่นมาให้ดูเช่นกัน เพื่อต้องการจะสื่อให้เชื่อว่า การทำในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติ และปัจจุบันยังมีผู้เสียหายอีกมากที่อยากจะออกมาพูด แต่พอเกิดเรื่องสื่อนำคลิปที่เป็นประเด็นมาเผยแพร่ ก็อาจทำให้เหยื่ออีกหลายคนไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหว ตลอดจนดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

พระเพชรบูรณ์ปล่อยคลิปขู่เหยื่อ
แฟ้มภาพ @อีซ้อขยี้ข่าว3

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความที่สนคันนายาวนั้น เนื่องจากอดีตพระรูปนี้ มีบ้านพักแห่งหนึ่งที่เปิดเป็นสำนักในพื้นที่ สน.คันนายาว และเป็นบ้านที่เกิดเหตุที่ผู้เสียหายหลายคน เคยไปทำพิธีในบ้านหลังนี้ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งเอาผิดนั้นขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนก่อน และจะพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง

ส่วนเรื่องคลิปที่อีกฝ่ายนำมาอกมาเปิดนั้น นายเอกภพ ยอมรับว่าผู้เสียหายกลัวมาตลอดว่าคลิปพวกนี้จะหลุดออกมา เนื่องจากช่วง 3-4 เดือน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำแบบนี้บ่อย แต่ทางตนและทีมงานไม่ได้ออกมาพูดกับสื่อตั้งแต่ตอนแรก เพราะการที่นำเสนอไปแบบนั้น ไม่ต่างกับการข่มขืนซ้ำทางอ้อม

ตนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคลิปที่ออกมาถึงมีการปิดบังหน้าคนที่วิดีโอคอลมา ส่วนการกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการข่มขู่ชัดเจน ทำให้ผู้เสียหายคนอื่นอาจไม่กล้าออกมาแจ้งความ หรือเปิดเผยตัวตนอีก.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button