ทนายอาร์ม โพสต์แชต อ้างถูกแบล็กเมล์ ท้านักข่าวหาคลิปวงจรปิด จะเห็นทุกความจริง

Aindravudhเผยแพร่: 21 พ.ค. 2567 10:03 น.| อัปเดต: 21 พ.ค. 2567 10:03 น.

76 Less than a minute

สืบเนื่องจากวานนี้ (20 พ.ค. 67) ตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล บุกจับกุม ทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร สส. จังหวัดสงขลา ตามหมายจับในคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ผู้เสียหายเป็นลูกความหญิงสาววัย 26 ปี ถูกล่อลวงไปข่มขืนเมื่อปี 2566 ซึ่งทนายอาร์มให้การปฏิเสธ อ้างว่าเป็นการสมยอม และได้ฟ้องกลับผู้เสียหายในข้อหาแจ้งความเท็จและกรรโชกทรัพย์

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของเจ้าตัว ได้โพสต์ชี้แจงถึงคดี เล่าไทม์ไลน์เหตุการณ์ฝั่งของตัวเอง และปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อจนกว่าคดีจะสิ้นสุดว่า

“เมื่อเดือนต.ค 2565 ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเคยคบหากับผม มาขอให้ทำคดีให้ ค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 ผมก็ทำให้โดยไม่ได้รับเงิน พบคดีจบก็ไม่เจอกันอีกเลย

เดือนมี.ค.2566 ผมมาธุระที่กรุงเทพฯเลยทักหา น้องก็มาหาผมจากชลบุรี มาถึงโรงแรมเที่ยงคืนน้องขอเงินผม 2,000 บาทผมโอนให้ นึกว่าทุกอย่างจะจบ เธอได้ทั้งค่าทนายและเงินจากผม

แต่เธอเริ่มระรานครอบครัวผม ไปหาเรื่องภรรยาผม จนผมต้องถามว่า ต้องการอะไร เธอจึงแบล็กเมลผม 50,000 ผมจึงนำเรื่องแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจทำสำนวนมีคำสั่งฟ้องแล้วตามภาพ

ต่อมาเธอไปแจ้งความหาว่า ผมข่มขืน ซึ่งห่างจากวันเกิดเหตุเป็นสัปดาห์ และโรงแรมมีพนักงาน 24 ชั่วโมง ไม่ใช่โรงแรมม่านรูด เธอขับจากกรุงเทพไปพัทยาทิ้งเวลาไปนาน ซึ่งไม่ใช่วิสัยของผู้เสียหาย ในทางหลังบ้านเธอได้ขอให้ทนายมาติดต่อยุติเรื่องแต่ทางหน้าฉากเธอร่ำร้องจะฆ่าตัวตายเรียกคะแนนความสงสาร

พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก และผมได้ประสาน รวมถึงทำหนังสือว่า จะเข้าพบ 10 มิ.ย. ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาเข้าสู่ในกระบวนการยุติธรรมชัดเจน แต่กลับมีการขอหมายจับลับหลังที่ตกลงกัน ซึ่งผมทำงานมาไม่เคยเจอ เป็นการเจตนาทำลายชื่อเสียง ก่อนจะทิ้งท้าย “ผมขอให้ทุกคนใจเย็นๆรอฟังคำตัดสิน ย้ำใครทำอะไรต้องรับผล”

“ว่าความในศาล พิสูจน์ความผิดในศาล ความจริงจะปกป้องทุกอย่าง ขอบคุณคนที่เข้าใจ ภรรยาผมทราบเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องเธอให้อภัยผลนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด ผมแค่เฝ้ารอคำพิพากษาขอให้ทุกคนรอไปกับผม.. #สำหรับคนที่ยังเชื่อมั่น”

นอกจากนี้ทนายอาร์ม ยังชี้ช่องให้นักข่าว “ไปตามหาคลิปวงจรปิด โรงแรมดอนเมืองวันที่ 30-31 มีนา 66 (ประมาณเที่ยงคืนถึงตีสี่) แล้วนำมาเปิดเผยสาธารณะ จะเห็นทุกอย่างว่า คนโดนกระทำที่ว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร การเดินเข้าออกโรงแรมทุกคนพึงประเมินได้

ปล.หลักฐานนี้อยู่ในสำนวนคดีแล้ว แต่ถ้าอยากเล่นข่าวจริงๆลองไปหามาดูเลย”