ผู้เชี่ยวชาญชี้ คดีเด็ก 17 ไม่สอดใส่ไม่ผิดข่มขืน แต่ยังเจอโทษอนาจาร
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายชี้ คดีสมรักษ์กับเด็ก 17 หากไม่มีการสอดใส่ถือว่ายังไม่ข่มขืน แต่เจอโทษอนาจารแน่นอน ระบุยอมความกันได้
สืบเนื่องจากกรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความเอาผิดอดีตนักมวยดัง สมรักษ์ คำสิงห์ ในข้อหากระทำอนาจาร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง หลังทั้งคู่พบปะกันในสถานบันเทิง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอย่าง นายธนธร ทาคำฟู เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก กฎหมายดี 4D ก็ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Thakhamfoo โดยระบุว่าคดีเด็ก 17 นี้ หากว่าตามตัวบทกฎหมายจะยังไม่ถือว่าเป็นการข่มขืน เพราะยังไม่มีการสอดใส่ ความว่า
“รู้หรือไม่ การไม่ยอมสอดใส่ เมื่อรู้ว่าคู่นอนอายุ 17 ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่มีความผิดในข้อหาพยายามข่มขืน แต่ผิดในข้อหาอนาจารซึ่งโทษเบากว่าเท่านั้น
เพราะข้อหาพยายามข่มขืน ตามมาตรา 276 ประกอบกับมาตรา 80 หากผู้ก่อเหตุยับยั้งเสียเองไม่กระทำไปตลอด จะทำให้ได้รับผลคือไม่ต้องรับโทษในข้อหานั้น เมื่อผู้ต้องหาอยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้ชิดต่อการใช้อวัยวะเพศล่วงล้ำไปยังอวัยวะเพศของหญิง 17 แล้ว แต่ยับยั้งเสียเองไม่ทำการสอดใส่ โดยแค่ถูไถภายนอก กรณีจึงเป็นการยับยั้งเสียเองโดยสมัครใจ ตามความหมายของมาตรา 82 ทำให้ผู้ต้องหาไม่ต้องรับโทษในข้อหาพยายามข่มขืน
แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการอนาจารอยู่ในตัว จึงรับผิดในข้อหาอนาจารตามมาตรา 278 และแม้ว่าจะมีความผิดในข้อหาอนาจารก็ตาม เมื่อผู้ก่อเหตุไม่ได้กระทำต่อหน้าธารกำนัล กล่าวคือทำในสถานที่ลับตามีเพียงสองคนคือผู้ก่อเหตุกับผู้เสียหายเท่านั้น ข้อหานี้จึงเป็นความผิดอันยอมความได้
ก่อนคดีอาญาถึงที่สุด ผู้เสียหาย ได้แก่ผู้เยาว์ จึงมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ หรือยอมความได้เองโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากบิดามารดา หากมีการถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความ ก็จะทำสิทธิในการนำคดีอาญาในข้อหาอนาจารมาฟ้องระงับไป”
ทั้งนี้ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์โพสต์ของนายธนธร พร้อมให้ความรู้ในอีกมุมหนึ่งว่า “เต็มใจไปด้วย หมายถึง ยอมไปกับผู้พรากตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุดจุดหมายโดยไม่มีการขัดขืน หรือยกเลิกการไปด้วยก่อนถึงจุดหมาย
ดังนั้น หากตอนแรกยอมไปด้วยกับผู้พรากเพราะเข้าใจว่าจะไปยังจุดหมายหนึ่ง แต่ผู้พรากไม่พาไปยังจุดหมายนั้น กลับพาออกไปนอกเส้นทาง กรณีจะถือว่าไม่เต็มใจไปด้วย รวมถึงตอนแรกถูกหลอกว่าจะพาไปส่งที่หนึ่ง จึงยอมไปด้วยโดยดีแต่ผู้พรากกลับพาไปนอกเส้นทาง ก็เป็นกรณีไม่เต็มใจไปด้วย เช่นกัน”