ฤๅษีเสียชีวิตในท่านั่งสมาธิ กู้ภัยใจแกร่ง แบกศพซ้อนท้าย จยย. ออกมาจากป่า
ฤๅษีเสียชีวิตในท่านั่งสมาธิ กู้ภัยต้องนำร่างแบกศพซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาจากป่า เนื่องจากไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้
เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยนพรัตน์ หรือ สมาคมเม้งลักกิ้วสุกโป่ว ได้รับการร้องขอจากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่วาง จ.เชียงใหม่ หลังมีชาวบ้านพบศพฤๅษีเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในอาศรมกลางป่าลึก
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุนั้นพบว่า ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้ เนื่องจากทางขึ้นเป็นทางดินและฝนตกลงมาต้องใช้รถกระบะโฟร์วิลเท่านั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเดินเท้าใช้ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร
เมื่อถึงอาศรมนั้นพบฤๅษีอายุ 58 ปี เสียชีวิตในท่านั่งขัดสมาธิแล้วฟุบหน้าลงกับพื้น สภาพศพสวมชุดสีขาวและยังมีสายให้ออกซิเจนติดอยู่กับจมูก ตรวจสอบพบว่ามีโรคประจำตัวหลายโรค และคาดว่าเป็นสาเหตุในการเสียชีวิตในครั้งนี้
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำศพผู้เสียชีวิตมามอบให้กับทางญาติเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แต่ปัญหาของเจ้าหน้าที่กู้ภัยคือไม่สามารถจะนำรถยนต์ขึ้นไปได้ที่นำรถขึ้นไปได้เป็นเพียงรถจักรยานยนต์เท่านั้น
ถ้าเจ้าที่กู้ภัยจึงใช้ผ้าขาวห่อพันศพแล้วก็แบกศพใส่หลังแล้วให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกคนที่แบกร่างผู้เสียชีวิตซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากอาศรมกลางป่า เมื่อนำศพลงมาถึงจุดที่รถกู้ภัยจอดอยู่ได้นำร่างไปส่งวัดเหล่าเป้า ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ญาติทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพต่อไป
นายจิรพันธ์ สุอินไหว หัวหน้ากู้ภัยนพรัตน์เปิดเผยว่าการเดินทางเข้าไปเก็บศพค่อนข้างที่จะยากลำบาก เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ป่าและเป็นถนนทางดินหากฝนตกถนนก็จะลื่น รถธรรมดาไม่สามารถขึ้นไปได้ หากเจ้าที่กู้ภัยจึงต้องเดินเท้าเข้าไปเก็บศพและแบกศพซ้อนลงมา