ข่าวข่าวการเมือง

เปิดประวัติ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงไทยคนแรก

เปิดประวัติ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ผู้เป็นหญิงแกร่งที่สามารถครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวของประเทศไทย

ชวนอ่านประวัติ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หรือ “นายกปู” อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงไทยคนแรก ในลำดับ คนที่ 28 ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยครั้งล่าสุด ก่อนจะปิดฉากการเมืองไทยรูปแบบเดิม ๆ จากผลพวงของการโดนยึดอำนาจ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำในการก่อรัฐประหาร

ผลงานการบริหารประเทศของเธอก่อนโดนยึดอำนาจนั้นก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับจากประชาชนโดยทั่วกันเป็นอย่างมาก อาทิเช่น การแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2554, การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือเพียง 20% รวมไปถึงการยุติหนี้สาธารณะที่ดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่ในช่วงยุคต้มยำกุ้ง ยอดรวมกว่า 1.14 ล้านล้านบาท

แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้กลายมาเป็นฉนวนของการเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนตุลาคม 2556 เป็นต้นมา จึงเป็นเหตุให้เกิดการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย

ประวัติ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’

‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่า นายกปู นั้น มาจากการเรียกโดยใช้ชื่อเล่นรวมเข้ากับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในณะนั้น อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2510 ปัจจุบันอายุ 56 ปี เป็นลูกสาวคนสุดท้องของ เลิศ ชินวัตรกับ ยินดี ชินวัตร

ซึ่ง เลิศ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนมารดา ยินดี ชินวัตร เป็นธิดาในเจ้าจันทร์ทิพย์ (ณ เชียงใหม่) ระมิงวงศ์ ที่สืบเชื้อสายจากพระเจ้าธรรมลังกา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และอาณาจักรล้านนาพระองค์ที่ 2 แห่ง “ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน)”

ภูมิลำเนาเดิมคือ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่จวบจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสมรสกับอนุสรณ์ อมรฉัตร อดีตผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็มลิงก์เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีบุตรชายร่วมกันหนึ่งคนคือ ศุภเสกข์ อมรฉัตร

เปิดประวัติ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย
ภาพจาก : wikipedia

อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงได้ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ณ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จากนั้นก็เข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี เมื่อปี พ.ศ.2531 ก็ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตที่ Kentucky State University (KUS) ณ เมือง Frankfort (แฟรงก์เฟิร์ต) รัฐ Kentucky (เคนตักกี้) ประเทศสหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ.2533

ประวัติการทำงาน

เมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.2534 อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้เข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรีส์ จำกัด ตำแหน่งพนักงานฝึกหัดและการขาย จากนั้นก็ได้ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ และได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายผลิตในเวลาต่อมา

และเมื่อปี พ.ศ.2537 ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เรนโบว์ มีเดีย ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง หรือทรูวิชั่นในปัจจุบัน จากนั้นก็ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ และได้ย้ายกลับมาทำงาน ณ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรีส์ จำกัด อีกครั้ง ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ

ต่อมาในปี พ.ศ.2549 ก็ได้เข้าทำงานในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายโทรคมนาคมและการสื่อสาร ในขณะนั้นอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงได้ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายเซอร์วิส โอเปอเรชัน

ต่อมาเป็นตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายเซอร์วิส โอเปอเรชัน และตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวางแผนธุรกิจไร้สาย และท้ายที่สุดก็ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการบริษัท

หลังจากที่ครอบครัวชินวัตรได้ตัดสินใจขายหุ้นในกลุ่มบริษัทชินคอร์ปให้กับ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ แล้วนั้น อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ จึงได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการของบริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย

ประวัติการดำรงตำแหน่ง-ผลงานทางการเมือง

‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้เริ่มต้นทำงานในวงการการเมืองตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2554 ภายใต้การเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคเดียวกันกับพี่ชาย อย่าง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 และในสมัยแรกของการทำงานในวงการการเมืองนั้นเอง พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย และสามารถจัดตั้งรัฐบาลจากการได้ผู้แทนราษฎรมากถึง 265 ที่นั่ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ไทยที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวสามารถครองเสียงข้างมากในสภา

ในวันที่ 5 สิงหาคม 2554 วันเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 อย่างเป็นทางการของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงถือเป็นวันที่สำคัญยิ่ง เพราะเธอได้พลิกโฉมการเมืองไทย โดยหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะถูกขีดเขียนโดยผู้หญิงเป็นครั้งแรก ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุด ด้วยอายุเพียง 44 ปีเท่านั้น

ถึงแม้การเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมุมมองทางการเมืองไทยจากเดิมไปตลอดกาล แต่ในปี พ.ศ.2557 หลังจากที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียง 2 ปีเศษ รัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ได้สิ้นสุดลง

ด้วยเหตุจากปมปัญหาการขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงจนนำไปสู่การทำรัฐประหาร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ป็นผู้นำในการก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลในครั้งนี้ และทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องประกาศยุบสภาในที่สุด และนับแต่นั้นเป็นต้นมาเธอจึงต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ

เปิดประวัติ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย
ภาพจากเฟซบุ๊ก : Yingluck Shinawatra
เปิดประวัติ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย
ภาพจากเฟซบุ๊ก : Yingluck Shinawatra

อย่างที่ทราบกันดีว่าในวันอังคารที่ 22 สิงหาคมนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ผู้เป็นบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมไว้ว่า “อังคารที่ 22 สิงหาคม 9.00 น. ณ สนามบินดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณค่ะ ”

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ทำให้หลาย ๆ คนไม่สามารถคาดการณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองได้ว่าจะดำเนินไปต่ออย่างไร การกลับมาในครั้งที่ของคุณพ่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพี่ชายของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงจะส่งผลต่อทิศทางการจัดตั้งหรือไม่นั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button