ชาวเน็ตเหยียด ‘หนุ่มจบม.ดัง’ แต่ทำงานส่งของ สุดท้ายเงิบ เมื่อเปิดรายได้

หนุ่มรายหนึ่ง จบมหาวิทยาลัยชื่อดังของจีน แต่มาทำงานส่งของ ชาวเน็ตออกความเห็น ไร้ความสามารถ ไม่มุมานะ แต่สุดท้ายต้องหงายเงิบ เมื่อเปิดรายได้จากการส่งของ
หลังจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตเลยก็ว่าได้ หากมีอาชีพที่ชื่นชอบสามารถหาเลี้ยงตนเองได้ก็คงดีไม่น้อย แต่ถ้าอาชีพของเราไปหนักที่หัวใครเขาล่ะ จะทำอย่างไร เช่นเดียวกับ หนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งเขาจบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของจีน โดยจบจากสาขาโลจิสติกส์ แต่เขากลับเลือกที่จะไปเป็นพนักงานส่งของ
คืนหน้าล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์ docbao ซึ่งเป็นสื่อของประเทศเวียดนาม รายงานว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน ได้เกิดประเด็นถกเถียงขึ้น กรณีของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทียนจิน สถานศึกษาหลักของโครงการ 985 และถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยหลักที่ดีที่สุดในจีน

โดยสาขาวิชาที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวสำเร็จการศึกษา คือสาขาโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นสาขาที่ค่อนข้างเฉพาะทาง แม้ผลการเรียนของเขาจะค่อนข้างดี แต่งานที่เขาสามารถทำได้อย่างมืออาชีพมีอย่างจำกัด
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเลือกที่จะมาทำอาชีพคนส่งของในแอปพลิเคชันส่งอาหาร แต่ในความคิดของใครหลาย ๆ คน คนส่งของคืองานที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา แม้แต่เด็กประถมก็สามารถทำได้ การที่เขาจบม.ดัง แต่เลือกมาทำงานส่งของ ทำให้หลายคนออกความเห็นว่า เขาไร้ความสามารถ ไม่มุมานะพอ และไม่พยายามหางานในออฟฟิศเหมือนคนอื่น ๆ
ถึงจะมีกระแสด้านลบจากการทำงานส่งของ แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็ได้อธิบายถึงเหตุผลที่เลือกทำอาชีพนี้ว่า ปัจจุบันนี้สภาพการทำงานมีการแข่งขันที่สูงเกินไป เขาไม่สามารถหางานที่ตนเองพอใจได้ อีกทั้ง ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเช่นเขา ก็ต่างได้รับเงินเดือนเพียง 3,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 14,000 บาท) เท่านั้น

ในขณะที่การทำงานส่งของ แม้จะเป็นงานหนัก แต่ก็สร้างรายได้ได้มาก โดยเขามีรายได้ 400,000 หยวน (ประมาณ 1,957,000 ล้านบาท) ใน 3 ปี ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 11,000 หยวนต่อเดือน (53,000 บาท) อีกทั้งเขายังเชื่อว่า ตราบใดที่หาเงินได้จำนวนมาก เขาจะทำงานส่งของต่อไปโดยไม่สนสายตาใคร
และเป็นดังคาด หลังจากชายหนุ่มคนดังกล่าว ออกมาเปิดเผยถึงรายได้ที่เขาได้รับเฉลี่ยต่อเดือน ชาวเน็ตก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ตกใจ ทั้งยังบอกด้วยว่า การหาเงินเป็นสำคัญ เพราะเงินหายากในตอนนี้
รวมถึงบางส่วนยังบอกอีกว่า ตลาดแรงงานทุกวันนี้มีทางเลือกไม่มากนัก ทุกคนต้องแบกความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ ไม่สามารถวาดฝันถึงอุดมคติและแผนการในอนาคตได้ อีกทั้งงานทุกงานล้วนมีเกียรติ ตราบใดที่สร้างรายได้เลี้ยงตนเองได้ ไม่ว่าจะอาชีพส่งของหรืออาชีพใด ๆ ก็สมควรได้รับการยอมรับเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม กระแสด้านลบต่องานส่งของยังมีให้พบเห็น เนื่องจากชาวเน็ตบางส่วนยังมองว่า อาชีพส่งของเป็นทางเลือกที่โง่เขลา แม้จะได้รับเงินมากกว่างานที่ใช้สมองอื่นในตอนแรก แต่ในระยะยาวอาจเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนัก

แม้กระแสชาวเน็ตจะแตกเป็นสองฝ่าย แต่การเลือกประกอบอาชีพที่สามารถเลี้ยงตนเองได้ และเป็นงานที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ก็ล้วนแต่สมควรเป็นงานที่ได้รับการยอมรับเช่นกัน ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ผู้คนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเลยคือ การให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของผู้อื่น ไม่ว่าผลลัพธ์ในอนาคตจะเป็นเช่นไรก็ตามนะคะ
กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่
อ้างอิง : 1