อ่วม! ฟูแล่มโดนเอฟเอตั้งข้อหาหนัก หลังเหตุวุ่นวายในเกมพบกับแมนยู
ฟูแล่ม ทีมดังจากกรุงลอนดอนโดน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ออกแถลงการณ์ตั้งข้อหากับตัวสโมสร , กุนซือ มาร์โก ซิลวา และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้า หลังก่อเหตุรุนแรงในเกม เอฟเอคัพ รอบแปดทีมในนัดที่ออกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
(คลิปไฮไลท์) ไล่ทีมเยือน3คน แมนยูเปิดบ้านพลิกรัวแซงฟูแล่ม ผ่านเข้ารอบรองเอฟเอ
ในเกมดังกล่าว ฟูแล่ม โชว์ฟอร์มได้ดี และยิงประตูนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ก่อนในช่วงต้นครึ่งหลังจากกองหน้าตัวเก่งอย่าง มิโตรวิช อย่างไรก็ดี ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกมในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเนื่องจาก ผีแดง ได้ลูกโทษจากการทำแฮนด์บอลของ วิลเลี่ยน โดยหัวฟูโดนใบแดงจากการเช็ค VAR ในจังหวะนี้ด้วย
เท่านั้นไม่พอ ซิลวา กุนซือของทีม ยังโดนไล่ออกไปด้วยจากการไปโวยแหลกใส่ผู้ตัดสินจังหวะกำลังเช็คภาพย้อนหลัง หลังจากนั้น มิโตรวิช ก็ยังไประเบิดอารมณ์ผลัก คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ จึงโดนไล่ออกไปอีกราย เป็นเหตุให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาศัยความได้เปรียบในด้านจำนวนผู้เล่นเร่งเครื่องแซงชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1
ล่าสุดเมื่อ 20 มี.ค. เอฟเอ แถลงอย่างเป็นทางการเรื่องการตั้งข้อหา ฟูแล่ม , ซิลวา และ มิโตรวิช โดยมีใจความว่า “ฟูแล่ม , มาร์โก ซิลวา และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ถูกตั้งข้อหาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 72 ในเกม เอฟเอคัพ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มี.ค”
” มาร์โก ซิลวา ใช้วาจาและอากัปกิริยาดูหมิ่นผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินที่สี่ก่อนที่เขาจะโดนไล่ออก และเขายังทำเช่นเดิมกับผู้ตัดสินที่สี่หลังโดนไล่ออกแล้ว นอกจากนั้นขวดยังน้ำถูกขว้างมาที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเขา”
“นอกจากนี้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ก็มีพฤติกรรม และใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมหลังโดนไล่ออก เอฟเอ มองว่ามาตรฐานของบทลงโทษที่จะนำมาใช้กับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เป็นที่ชัดเจนว่าไม่เพียงพอ อีกทั้ง ฟูแล่ม ล้มเหลวต่อการควบคุมให้นักเตะทำตัวอย่างเหมาะสม”
ทั้งนี้สื่อคาดการณ์ว่า มิโตรวิช น่าจะโดนลงโทษแบนยาวมากกว่าสามนัด ขณะที่ ซิลวา ก็น่าจะได้รับโทษสถานหนักเนื่องจากถูกระบุว่าก่อความผิดหลายกรณี
#Mitrovic needs a massive ban. It’s not going to kill the ref, sure, but allow it and where does this end?
Already so many incidents of aggression on the pitch these days. Players needs to be better as one day it might come back on them. Shocking. https://t.co/yxcMPazDDe
— 𝚝𝚑𝚘𝚖 𝚓𝚊𝚖𝚎𝚜 (@thom__james) March 19, 2023
ขอบคุณาพประกอบจาก : BR Football
อัปเดตข่าวฟุตบอลต่างประเทศ คลิกที่นี่