งานเข้า ฟ็อกซ์ สปอร์สต์ เต็มๆ เมื่อมีรายงานออกมาว่าพวกเขาถูกสอบข้อหา ติดสินบน ฟีฟ่า เพื่อให้ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล 2 รายการดัง
abc News ได้รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้ยื่นฟ้อง คาร์ลอส มาร์ติเนซ และ เฮอร์มาน โลเปซ สองอดีตผู้บริหารของ ทเวนตี้เฟิร์สต์ เซนจูรี ฟ็อกซ์, ฟ็อกซ์ สปอร์ตส์ เครือข่ายที่ออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลกในสหรัฐอเมริกาและ ฟูล เพลย์ กรุ๊ป บริษัทการตลาดด้านกีฬาในบัวโนสไอเรส เกี่ยวกับคดีทุจริตและติดสินบน ซึ่งทั้งหมดได้เข้ารับฟังข้อกล่าวหา ที่ศาลพิจารณาคดีกลาง ในบรูกลิน มหานครนิวยอร์กแล้ว
อดีตผู้บริหารของ ฟ็อกซ์ ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ และสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินที่มีส่วนร่วมในแผนการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ด้านลิขสิทธิ์ ในการถ่ายทอดสด โกปา ลิเบอร์ตาโดเรส และ ฟุตบอลโลก2018 ที่รัสเซีย และ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
โดยระบุว่าในช่วงระหว่างปี 2055-2015 มีการตกลงที่จะจ่ายเงิน และอำนวยความสะดวกในการปกปิดการติดสินบนประจำปี และจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ คอมเมบอล (CONMEBOL) และ ฟีฟ่า (FIFA) เพื่อแลกกับการได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศเชิงพาณิชย์จากทั้ง 2 องค์กร ในเครือข่ายที่อยู่ภายใต้ ที แอนด์ ที สปอร์ตส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ฟ็อกซ์ และ ทอร์นีออส
Two former 21st Century Fox executives bribed soccer officials to win lucrative broadcast rights, a prosecutor in their criminal trial said. It's part of a long-running probe of corruption in the sport https://t.co/8HD33Q9RBX
— Bloomberg (@business) January 18, 2023
ซึ่งถ้าหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้บริหารทั้งสองถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง โลเปซ และ มาร์ติเนซ อาจต้องเจอโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ในขณะที่ทางฟ็อกซ์ ถ้าถูดตัดสินว่ารู้เห็นด้วย ก็จะโดนโทษปรับเงินเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทย 6,576 ล้านบาท และนั่นหมายความว่าคดีนี้จะเกี่ยวข้อกับทั้ง ฟีฟ่า และ คอนเมโบล ด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีนี้เป็นการพิจารณาคดีของทางการสหรัฐฯ ที่ได้รับผลสืบเนื่องมาจากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมต่อองค์กรของ ฟีฟ่า ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเกือบทศวรรษที่แล้วเกี่ยวกับเคสการทุจริตภายในองค์กรของ เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานฟีฟ่าคนเก่านั่นเอง