รีวิว The Witcher Blood Origin มินิซีรีส์ Netflix 4 ตอน จากนักวิจารณ์ Rotten Tomato สับแหลก ภาคแยกไม่น่าประทับใจ มิเชล โหย่ว ยังเอาไม่อยู่
ถือว่าค่อนข้างอยู่ในสถานการณ์หมิ่นเหม่ทีเดียวสำหรับซีรีส์ The Witcher ซึ่งล่าสุดได้ปล่อยภาคแยกย่อยเป็นมินิซีรีส์ 4 ตอนสั้นในวันคริสต์มาส 25 ธันวาคมที่ผ่านมาทาง Netflix กับ The Witcher: BLOOD ORIGIN นักล่าจอมอสูร: ปฐมบทเลือด แต่ดูเหมือนว่าจะยังคงไม่สามารถเรียกความประทับใจคืนกลับมาได้เท่าที่ควร โดยได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์เพียง 38 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคะแนนจากทางผู้ชมได้เพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
วันนี้ทีมงานไทยเกอร์จึงขอรวบรวมคำวิจารณ์จากเว็บไซต์ rottentomatoes มาให้ทุกคนได้พิจารณากันก่อนรับชม The Witcher : Blood Origin ซึ่งได้นักแสดงตัวแม่ฝั่งเอเชียอย่าง Michelle Yeoh (มิเชล โหย่ว) มารับบทนำของเรื่อง ร่วมด้วย Laurence O’Fuarain, Sophia Brown, Mirren Mack, Lenny Henry ฯลฯ
BLOOD ORIGIN ภาคนี้จะเท้าความกลับไปถึง 1,200 ปีก่อนเกิดเรื่องราวใน The Witcher ตำนานนักล่าอสูร ก่อนที่โลกของปีศาจ มนุษย์ คนแคระ ผู้วิเศษ และเอลฟ์ จะรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
นักดาบเร่ร่อนผู้มีฝีมือดาบชั้นครู คนสุดท้ายของเผ่าเอลฟ์ Scían (รับบทโดย มิเชล โหย่ว) ได้ออกเดินทางเพื่อทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าที่ถูกขโมยไป และทำให้ได้พบคำตอบของ Conjunction of the Spheres จุดเริ่มต้นที่ทำให้ 5 เผ่าพันธุ์ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียว
คำวิจารณ์จากผู้ชมส่วนใหญ่ต่างก็กล่าวในแง่ลบว่า “ค่อนข้างเสียเวลาดู” เพราะ BLOOD ORIGIN ดูท่าจะเป็นภาคแยกของเรื่องที่หาความเชื่อมโยงไปถึงเนื้อเรื่องหลักได้น้อย เรียกได้ว่าไม่ถูกใจแฟนตัวจริงที่ชื่นชอบจักรวาลของ The Witcher สักเท่าใดนัก นอกจากนี้ยังมีคำวิจารณ์ที่กล่าวว่าค่อนข้างเสียของ เพราะแม้จะได้มิเชล โหย่ว มาร่วมแสดง แต่กลับไร้ความน่าดึงดูด
ใช่ว่าจะมีแต่คำวิจารณ์ในด้านลบ เพราะผู้ชมอีก 8 เปอร์เซ็นต์มองว่า The Witcher ภาคนี้เป็นการปูประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเรื่องราวในเรื่องที่ทำให้แฟนซีรีส์ได้เห็นปูมหลังและที่มาของตัวละคร แม้จะดูอัดแน่นเกินไปด้วยความยาวแค่เพียง 4 ตอนก็ตาม
ต่างคนต่างความคิด เอาเป็นว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากสัมผัสด้วยตัวเองว่า The Witcher: BLOOD ORIGIN จะน่าประทับใจหรือน่าผิดหวัง สามารถไปพิเศษด้วยตัวเองกันได้ ทาง Netflix.