ข่าว

สาวนักธุรกิจเล่า ปล่อยลูก 3 ขวบ ดูแต่จอ ทำพูดช้า-อารมณ์รุนแรง

นักธุรกิจสาว เล่าอุทาหรณ์ ลูก 3 ขวบ ดูจอ ทำพัฒนาการล่าช้า อยู่ที่ 1 ขวบครึ่ง ยังพูดไม่ได้ อารมณ์รุนแรง หลังผู้ปกครองต้องทำงาน ปล่อยลูกติดจอ เล่นแต่โทรศัพท์มือถือ

อุทาหรณ์คนเป็นพ่อ-แม่ เมื่อล่าสุด หญิงสาวนักธุรกิจรายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์ ลูกวัย 3 ขวบ ยังพูดไม่ได้ อารมณ์รุนแรงชอบทำลายข้าวของ ทำร้ายคนรอบข้าง เมื่อพาไปตรวจถึงทราบสาเหตุเพราะเลี้ยงลูกด้วยจอ ปล่อยลูกลเ่นแต่โทรศัพท์มือถือ

Advertisements

โดยวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ผู้ใช้บัญชี TikTok @mangmintlee หรือคุณเคท เจ้าของสินค้า All Tree เปิดเผยถึงเรื่องราวของลูกคนแรกอายุสามปี แต่ต้องเจอกับปัญหาพัฒนาการล่าช้าไม่สมวัย โดยตอนแรกคุณเคทยอมรับว่า ตกใจมากคิดว่าลูกเป็นโรคที่เกี่ยวกับออทิสติกหรือเปล่า กระทั่งพาไปตรวจหาสาเหตุกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญก็ได้รับคำตอบถึงสาเหตุทั้งหมดเกิดจากการปล่อยให้ลูกอยู่กับมือถือบ่อยเกนไป

คุณเคทอธิบายเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ลูกเกิดมาจนถึงอายุ 7 เดือน พัฒนาการปกติทุกอย่าง หลังจากนั้น คุณเคทยอมรับว่าเริ่มให้ลูกดูจอต่าง ๆ เช่น เปิดทีวี เปิดคลิปให้ดูตลอด ส่วนตนก็ทำงานไป กระทั่งลูก 2 ขวบ เริ่มเห็นความผิดปกติของลูก จึงปิดการดูคลิปทุกอย่างเป็นเวลา 1 ปีเต็ม แต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว

ตอนนี้วิธีการรักษาลูกคือ ต้องนำกลับมาฝึกใหม่ที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 3 วัน รวม 1 เดือนประมาณ 8,000 บาท นอกจากนี้ พ่อแม่ที่บ้านก็ต้องช่วยฝึก ครูที่โรงเรียนก็ต้องช่วยฝึก เพราะเวลาที่เขาพูดไม่ได้ เขารู้สึกอึดอัด ดังนั้นจึงกลายเป็นพฤติกรรมทำลายข้าวของ กรี๊ด ตีคนรอบข้าง

ดังนั้น คูเคท จึงอยากเตือนพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยมือถือ เลี้ยงลูกด้วยจอ ให้เอาลูกเคทเป็นกรณีศึกษาว่าผลที่ตามมาเป็นยังไง ถ้าเลิกดูจอได้ก็เลิกเสียดีกว่า ตอนนี้พ่อแม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลูกกลับมามีพัฒนาการที่สมวัย โดยเรื่องนี้เป็นไวรัลมีคนให้ความสนใจ กดเข้าดูแล้วกว่า 2.7 ล้านครั้ง

@mangmintlee

ลูกคนแรก กับ การเลี้ยงดูที่ผิด #fyp #viral

♬ เสียงต้นฉบับ – เคท เจ้าของแบรนด์ All Tree – เคท เจ้าของทุกแบรนด์

Advertisements

 

 

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button