ครูมืด ประสาท ทองอร่าม เสียชีวิตแล้ว – ประวัติ ครูมืด ครูผู้เชิดชูโขน
ครูมืด ประสาท ทองอร่าม ศิลปินผู้อุ้มชูศิลปะโขน เสียชีวิตแล้ว
วันนี้ 5 พฤศจิกายน 2565 เมื่อช่วงเย็นมีรายงานว่า ครูมืด ประสาท ทองอร่าม ศิลปินแห่งชาติ เสียชีวิตแล้ว
สำหรับประวัติ ครูมืด ประสาท ศิลปินด้านโขนละคร ดนตรีไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย จากกรมศิลปากร และหนึ่งในผู้ให้ความรู้ในรายการคุณพระช่วย ได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ท่านเคยเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองผ่ารายการ คุยแซ่บ Show เมื่อปี พ.ศ. 2564 ไว้ว่า “ชีวิตเติบโตมาจากสลัม อยู่สลัมเลย คือบ้านที่เป็นอยู่หลังคาติดกันหมดเลย แล้วที่บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านที่เช่าเขาอยู่ อาศัยอยู่ข้างวัด แต่บังเอิญถิ่นที่ผมอยู่ถึงแม้จะห่างไกลความเจริญ แต่คนที่อยู่เป็นบุคคลทรงความรู้ และศิลปินแห่งชาติเยอะมาก
ตอนเด็กผมร่องรอยเยอะมาก เกเรครับ ตีกัน ศึกใหญ่มากเลย ตีกันทั้งโรงเรียน ซึ่งเหตุมันเกิดจากเริ่มงานไหว้ครู เด็กนาฏศิลป์ทำความสะอาด ช่างศิลป์มาก็เตะขวดน้ำกระจาย ก็ตีกันวันนั้น พอรุ่งขึ้นนัดกันไปเลย ก็พรวดพราดตีกัน เรื่องถึง สน.ต้องมาจับ มีอาวุธ ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนข้าราชการด้วย ก็มีคำสั่งให้ออกจากโรงเรียน ออกจากราชการ แต่ผู้ใหญ่ก็ขอไว้ ลงโทษให้ต่ำจากไล่ออก ก็โดนลดขั้นเงินเดือน แล้วให้สอบตกปีนึง
มีโอกาสได้เข้าไปเรียนดนตรีนาฏศิลป์ เราชอบอยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบแสดงออก ชอบเป็นผู้นำตั้งแต่เด็ก เพราะว่าเราอยู่สลัมคนก็อยู่เยอะ ก็มาเล่น เล่านิทานให้ฟังบ้าง เล่นกีฬาพื้นเมืองบ้าง เล่นซ่อนหา เราก็ชอบ แล้วเผอิญคุณปู่ผมท่านเป็นนักดนตรีไทย ท่านเป็นลูกศิษย์ของ คุณครูไพร หลวงประดิษฐ์ ไพเราะ ก็เอาผมติดตัวไปด้วย แล้วที่วัดก็เป็นศูนย์รวมของศิลป์หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นโขน ลิเก ละคร ปี่พาทย์ ก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น
ก็มีข้าวกิน บ้านเราจน เราก็อาศัยข้าววัดกิน เราก็ได้ดูโขน ดูลิเก ดูดนตรี ดูอะไรต่างๆ แล้วมันชอบ แล้วพอกลับมาก็เอาเรื่องเหล่านั้นมาเล่นกับเด็กๆ พอจบ เรียนชั้นประถม 5 ปี ชั้นมูล คือก่อน ป.1 ก็เป็นผู้นำมาตลอด นำร่องเพลงชาติ เป็นนักกิจกรรม
ชีวิตผมผ่านอะไรมาเยอะมาก ผมมีภรรยาก็อยู่ด้วยกันจะมีน้อง หมอบอกว่ามีน้อง เราก็ดีใจมากเลย เพราะเราไม่มีทายาท แต่อยู่ได้สักเดือน สองเดือนได้ข่าวว่าเสียน้องไป มันสะเทือนใจมาก อันนี้มันเป็นวิบากกรรมของผมแน่ๆ
ผมระลึกถึงเสมอว่าเป็นกรรม เคยทำกรรม เคยทำเวรอะไรไว้ จึงทำให้ไม่มีลูก ก็เสียใจมาก พอเสียน้องไปแล้ว มันก็โยงไปทำให้เสียภรรยาไปด้วย หลังจากนั้นก็เป็นโสดมาตลอดปฏิญาณตนไว้ว่าขออยู่คนเดียว เพราะความที่เราเพลิดเพลินไปมันเยอะแล้ว
หลังจากที่เสียแฟนไป มันเยอะแล้ว ก็พอแล้ว คิดว่าหลังจากเกษียณอายุแล้ว ก็จะตั้งใจอยู่กับพี่น้อง ครอบครัว แล้วก็ทำอะไรให้กับสังคม ทำอะไรให้กับโรงเรียนนาฏศิลป์ ทำอะไรให้กับกรมศิลปากรมากยิ่งขึ้นครับ