ไบร์ท วชิรวิชญ์ เปิดใจปมลงทุน Forex 3D เผยความรู้สึกมีชื่อเอี่ยวแชร์ลูกโซ่ ยอมรับว่าเครียดที่ถูกโกง เพราะงินสำรองหมดบ้าน ยืนยันชัดไม่เคยชักชวนใครมาเล่น ยินดีให้ความร่วมมือหากเจ้าหน้าที่ต้องการ
ถือเป็นดาราอีกคนที่มีชื่อเอี่ยวในคดี Forex 3D สำหรับ ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์‘ ซึ่งล่าสุด หนุ่มไบร์ทได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อมวลชน ระบุรู้จักกับ อภิรักษ์ ตั้งแต่เด็ก และตัดสินใจลงทุนเพราะเห็นคนอื่นได้กำไร เผยเงินทั้งหมดคือเงินเก็บของตัวเองและแม่ ถ้ารู้ว่าจะถูกหลอกคงไม่ปล่อยให้แม่และคนอื่นเดือดร้อน
เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 30 กันยายน 2565 หนุ่มไบร์ทได้เปิดใจใน รายการวันบันเทิง โดยระบุว่า “ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15 – 16 ครับ ช่วงนั้นผมทำรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ผมก็จะมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เป็นพิธีกรด้วยกันชื่อพี่นิกโก้ พี่นิกโก้เนี่ยเป็นคนที่พาผมไปรู้จักกับพี่รักษ์”
ไบร์ทได้อธิบายต่อว่า ช่วงนั้นทำงานเลิกดึก ถ้ากลับนครปฐมไม่ทัน บางคืนก็จะไปอาศัยนอนที่บ้านของนิกโก้ ซึ่งพักอยู่ด้วยกันกับอภิรักษ์ เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้รู้จักกัน ซึ่งตอนนั้นตัวเองอยู่ม.4 และคลิปร้องเพลงที่ถูกเผยแพร่ เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน
สำหรับจุดเริ่มต้นเรื่องการลงทุน Forex 3D ไบร์ทยอมรับว่าเริ่มจากตัวเอง เพราะทุกคนรอบตัวลงทุนกันหมด และหลังจากมองมาสักพักก็เห็นว่าทุกคนได้กำไร เลยคิดว่าน่าจะโอเค โดยเงินก้อนแรกที่เอามาลงได้ขอแม่มา 50,000 บาท ซึ่งช่วงแรก ๆ ได้เงินจริง ทำให้เริ่มเก็บเงินมากขึ้น
ในตอนนั้นรายได้ทั้งหมดจากการทำงาน ไบร์ทเอาไปลงทุนกับ Forex 3D แทบทั้งหมด เพราะคิดว่าเป็นการออมเพื่ออนาคต ซึ่งตอนนั้นเป็นเงินจากการเล่นโฆษณา แคสต์งาน และบางส่วนเป็นเงินของแม่ จนเรียกได้ว่าเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัว และเป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวที่ที่บ้านมี รวมทั้งหมดประมาณ 775,000 บาท
เมื่อโดนถามเรื่องรายละเอียดการโดนโกง ไบร์ทยอมรับว่าในตอนนั้นเครียดมาก เพราะคิดว่าตัวเองต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่ บวกกับเจอสถานการณ์โควิด แต่ในช่วงแรกยังพอจะติดต่อกับอภิรักษ์ได้บ้าง ซึ่งเขาพยายามพูดหว่านล้อมให้มั่นใจว่าอยู่ในกระบวนการ ทำให้ไบร์ทเชื่อสนิทใจเพราะถือว่าเป็นพี่ที่รู้จักกัน
ไบร์ทบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความโลภที่บังตา พร้อมฝากบอกคนดูว่า “มันไม่มีการลงทุนอะไร ที่มันจะให้ผลตอบแทนอะไรขนาดนั้น ถ้าจะลงทุนอะไร ก็อยากให้ลงทุนในสิ่งที่มันตรวจสอบได้ ถูกต้องตามกฎหมาย มีกฎหมายรับรองจริง ๆ อย่าหลงเชื่อไม่ว่าจะใครก็ตาม”
ทั้งนี้ไบร์ทบอกว่าตัวเองก็คือเหยื่อ ไม่ได้ชักจูงใคร ส่วนคนที่ลงตามมีแค่คนใกล้ตัว คือแม่และเพื่อนสนิท ถ้าหากรู้ว่าเป็นการฉ้อโกงคงไม่ปล่อยให้ใครเสียหาย และคงเอาเงินเก็บของครอบครัวออกมาทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ไบร์ทได้บอกว่ายินดีจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ สามารถติดต่อเข้ามาได้เลย ทางด้านตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ ตั้งแต่เริ่มตนก็เครียดกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ส่วนวันนี้เครียดเรื่องข่าว เผยทุกอย่างเข้ามาค่อนข้างหนัก
ก่อนจากกันไป ไบร์ทได้พูดทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณแฟน ๆ และทุกคนที่เชื่อใจ พร้อมขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียนให้กับทุกคน เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาถูกหลอกหรือเสียหายกับเรื่องแบบนี้อีก.
