หญิงลาว รายหนึ่งได้ถูกติดคุกเป็นเวลา 2 ปี 5 เดือน และสูญเงินไปกว่า 20 ล้านบาท เนื่องจากถูกอดีตแฟนชาวไทย แจ้งจับฐานจ้างวานปล้น โดยไม่พบความผิดตามการแจ้งความแต่อย่างใด
(1 ส.ค. 2565) เมื่อเวลา 07.30 น. ณ อ.เชียงคาน จ.เลย นางแสง หญิงลาว อายุ 51 ปี ชาวเมืองปากลาย แขวงไชยบูลี สปป.ลาว ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนถึงการที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าจ้างวานปล้นอดีตสามีคนไทย จนโดนโทษจำคุก และเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
รายละเอียดของเรื่องนั้น เริ่มจากการที่ นางแสง ได้แยกทางกับ นายอุดม อดีตสามีคนไทยที่อยู่ร่วมกันมาเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยในระหว่างที่อาศัยร่วมกันนั้น ก็ได้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ในนามของนายอุดม เนื่องจากนางแสงไม่สามารถทำการซื้อ หรือทำธุรกรรมภายในประเทศไทย พอมาถึงช่วงเวลาแยกทางนายอุดมก็ได้ทำปฏิเสธการแบ่งแยกทรัพย์สินที่มีมูลค่าถึง 20 ล้านบาท
โดยนางแสงด้วยความไม่รู้ในตัวกฎหมาย ประกอบกับมีคนรู้จักแนะนำทีมงานทนายความที่จะช่วยในการการดำเนินคดีฟ้องร้องได้นั้น จึงได้จ้างวานเป็นจำนวนเงินถึง 1,000,000 บาท แต่แล้วกลุ่มทนายดังกล่างวนั้น ได้ทำการบุกปล้นบ้านของนายอุดม แล้วได้ทรัพย์สินไปมูลค่า 2 ล้านบาท (เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2565)
ทำให้นายอุดมได้ดำเนินการแจ้งความกับกลุ่มผู้แอบอ้างเป็นทนาย และตัวนางแสงในฐานะผู้จ้างวานปล้น ซึ่งก็ถูกศาลประจำจังหวัดเลย พิพากษาจำคุก 3 ปี โดยก็ได้ถูกจำคุก ณ ทัณฑสถานหญิงกลางคลองไผ่เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวหลังต่อสู้คดีในชั้นศาลอุธรณ์
แต่กระนั้นเรื่องราวก็ยังไม่จบแต่อย่างใด เนื่องจากภายหลังการปล่อยตัวแล้วนั้น ตม.จ.หนองคาย ที่มีหน้าที่รับตัวส่งกลับประเทศต่อจาก สภ.คลองไผ่ นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ทำให้ต้องถูกส่งตัวไปยังกองเมืองนครราชสีมา เพื่อควบคุมตัวเป็นระยะเวลา 6 เดือน และก็ถูกส่งกลับไปยัง ตม. หนองคาย อีก 8 เดือน ทำให้ถูกจำคุก และอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี 5 เดือน
ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ นางแสง จึงได้ดำเนินการเรียกร้องต่อสื่อมวลชนในการขอความเป็นธรรม และให้มีการดำเนินการจัดสรรทรัพย์สินคืน เนื่องจากนอกจากการติดคุกแล้วนั้น ตนเองก็สูญทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จนต้องอาศัยครอบครัวในการดำรงชีวิต
แหล่งที่มาของข่าว : Ch. 3 Plus
สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป
