ข่าวภูมิภาค

แสบ! แอบ แปลงมิเตอร์ไฟ ขุดบิตคอยน์ นานครึ่งปี

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับกรณีที่มีการ แปลงมิเตอร์ไฟ เพื่อทำการ ขุดบิตคอยน์ โดยพบว่าทำมานานแล้ว 6 เดือน

แปลงมิเตอร์ไฟ ขุดบิตคอยน์ – (19 พ.ค. 2565) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครราชสีมา (สุรนารี)​ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา หลังพบว่าไม่มีการใช้ไฟฟ้ามาเป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน โดยเมื่อทำการตรวจสอบก็พบว่ามีการดัดแปลงเครื่องวัดการใช้งานไฟฟ้า ทำให้ไม่สามารถวัดได้ และได้ใช้งานไฟฟ้าเพื่อทำเหมืองบิตคอยน์ที่ใช้งานถึง 30 แอมป์ และค่าใช้จ่ายจะตกอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท/เดือน

Advertisements

ในเชิงรายละเอียดนั้น สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการค้นพบโดย นายรณชัย อาสนพรรณ พนักงานช่างระดับ 7 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครราชสีมา (สุรนารี)​ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง ที่ทำการตรวจสอบอาคารพาณิชย์เลขที่ 273/9 หมู่ 4 ตำบลหนองจะบก อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก็ได้ทำการค้นพบถึงการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมายตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น

หลังจากทำการตรวจสอบเพิ่มเติมก็พบว่าผู้ที่เช่าอาคารดังกล่าวคือนาย เอกพันธ์ จันทรสิงห์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 14 ตำบลตะเคียน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา จึงประสานหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถาม

โดยเบื้องต้นนายเอกพันธ์ได้ให้การว่าเป็นผู้เช้าอาคารดังกล่าวจริง ซึ่งก็ได้จ้างช่างมาตัดแต่งมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อใช้งานอาคารดังกล่าวเป็น “เหมือง” ที่ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการขุดบิตคอยน์

อย่างที่ทราบกันดีว่าการดำเนินการขุดบิตคอยน์จะมีการใช้งานพลังงานไฟฟ้าที่สูง และต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งก็เป็นผลให้ค่าไฟฟ้านั้นจะสูงขึ้นจากการใช้งานไฟฟ้าตามปกติ ในกรณีนี้ก็เป็นมิเตอร์เป็นขนาด 3 เฟส ที่พบว่ามีกระแสไฟวิ่ง 16 แอมป์ถึงเกือบ 30 แอมป์ในแต่ละเฟส โดยจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนประมาณ 10,000 บาท/เดือน ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงนั้นทำให้นายเอกพันธ์ตัดสินใจจ้างช่างไฟฟ้ามาดำเนินการดัดแปลงมิเตอร์เพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าบริการไฟฟ้าเป็นจำนวนที่ว่า

Advertisements

ซึ่งนายเอกพันธ์ ผู้เช่าคนดังกล่าว ได้ทำการติดต่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า ตนเองเตรียมที่จะเข้าเจรจาหาข้อตกลงในกรณีนี้ภายในวันที่ 23 พ.ค. 2565 ที่ สภ.โพธิ์กลาง โดยทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งไปว่า หากไม่มาติดต่อตามระเบียบภายใน 7 วัน ทางการไฟฟ้าสามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยมีความผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญาในข้อหาลักทรัพย์ทางราชการ และหากไม่มาพบตามที่นัดไว้คงต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

แหล่งที่มาของข่าว : CH3+ News

สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button