ข่าวข่าวภูมิภาค

ดราม่า สาวแพ้กุ้ง กินบุฟเฟต์โรงแรม สามีคาใจ ถามแล้ว พนง.บอกไม่มี ?

สามีโพสต์เล่า ภรรยา แพ้อาหารทะเล ไปกินบุฟเฟต์ในโรงแรม ถามพนักงานก่อนแล้ว มีส่วนผสมของกุ้งหรือไม่ พนักงานตอบชัดไม่มี ก่อนที่สุดท้ายเจออาการแพ้กุ้งรุนแรง ต้องหามส่ง รพ.

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 ออกมาโพสต์เปิดเผยเรื่องราว ที่เป็นการฝากเตือน ไปยังคนที่ แพ้อาหารทะเล โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้บหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเดินทางไปรับประทานอาหารยังโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วต้องเจอกับอาการแพ้อาหาร ทั้งที่ก่อนจะสั่งเมนูเก่ง ก็ได้มีการสอบถามพนักงานก่อนแล้วว่า มีกุ้งหรือไม่ ?

แพ้กุ้งรุนแรง…ใครควรรับผิดชอบ..ป้ายแสดงเมนูของโรงแรม..สอบถามพนักงานบริการบอกไม่มี..สอบถามอีกที(พนักงานไปถามในครัว)บอกมี

สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาติ เตือนเพื่อนๆที่ชอบทานอาหารประเภท บุฟเฟ่ต์ ในโรงแรม เพราะคำนึงถึงความปลอดภัย การบริการดูแลที่ดี ซึ่งความเป็นจริง อาจไม่เป็นเช่นนั้น

คุณอาจจะเจอกับป้ายชื่ออาหารที่จัดวางไม่ตรงตำแหน่งที่ควรเป็น วางสลับตำแหน่ง หรือ อาจจะไม่วางเลยก็ได้ และเมื่อสอบถามกับพนักงาน ท่านอาจได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายร้ายแรง อย่างเช่นเคสภรรยาของผม

วันที่ 28 เม.ย.65 เวลา 18.10 น. ตนและภรรยา รับประทานอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยภรรยาตักสลัดที่ไม่มีป้ายชื่อ หรือคำที่แสดงส่วนประกอบของอาหาร โดยเข้าใจว่าเป็นสลัดผักธรรมดาตามรูป

เมื่อทานเข้าไปคำแรก แฟนรู้สึกถึงความผิดปกติเบื้องต้น จึงสอบถามพนักงานของห้องอาหารว่า ในสลัดที่ตักมามีส่วนผสมของกุ้งที่ตนเองแพ้หรือไม่ พนักงานตอบว่า “ไม่มีครับ เป็นสลัดผักกับผลไม้” ตนจึงได้พูดย้ำไปว่า ชัวร์นะครับ เพราะภรรยาแพ้กุ้งรุนแรงมาก พนักงานตอบกลับมาว่า “ไม่มีครับ”

ดังนั้น ภรรยา (ซึ่งขณะนั้นอาการยังไม่ชัด) จึงรู้สึกสบายใจและได้รับประทานอาหารดังกล่าวซ้ำอีกหนึ่งคำ ซึ่งครั้งนี้กัดโดนเนื้อกุ้ง (จึงคายออกมาในทันที โดยคาดว่ามีกุ้งออกมาครึ่งนึง อีกครึ่งกลืนลงไปแล้ว) ระหว่างนี้จึงแก้ไขโดยทานน้ำตามมากๆ แต่อาการเริ่มรุนแรงมากขึ้น (หายใจเริ่มติดขัด) ด้วยความตกใจ จึงเรียกพนักงานคนเดิมมา แล้วชี้บอกว่าในสลัดนี้มีกุ้งอยู่ พนักงานคนเดิมเลยเข้าไปถามข้างในครัว แล้วเดินออกมาบอกว่า “มีกุ้งครับ”

หลังจากนั้นเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง และได้ร้องขอให้ทางโรงแรมเรียกรถพยาบาล เพื่อส่งผู้ป่วยไปรักษาเร่งด่วน ระหว่างนั้นโรงแรมได้ขอบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์เผื่อไว้ ขณะที่รถพยาบาลมาถึง แฟนขณะนั้นไม่ได้สติ มีอาการ หายใจติดขัด ปาก และตัวบวม มีผื่นขึ้นตามลำตัว ณหมอที่มากับรถพยาบาล จึงต้องขออณุญาตฉีด Adrenalin เป็นการเร่งด่วน และปฐมพยาบาลในรถเป็นเวลานานพอสมควร (คุณหมอบอกว่า เพื่อเป็นการป้องกันความดันโลหิตตก และนำไปสู่การเสียชีวิตได้) ก่อนที่รถจะสามารถออกจากโรงแรมได้

ตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ตั้งแต่ห้องฉุกเฉิน ออกมาห้องธรรมดา จน check out เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่มีคนของโรงแรมมาที่โรงพยาบาลเลยแม้แต่สักครั้งเดียว มีเพียงการทัก line มาถามความคืบหน้าตามมารยาทเท่านั้น ค่ารักษาทั้งหมดประกันสุขภาพของภรรยาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ความอดทนสิ้นสุดลงเมื่อ ทางประกันของโรงแรมไม่รับผิดชอบตามที่ควรจะเป็น โดยให้เหตุผลว่า

  1. ไม่มีกฎหมายบังคับให้โรงแรมต้องติดป้ายอาหาร
  2. เมื่อได้รับการสอบถาม พนักงานอยู่ระหว่างหาคำตอบ ทางลูกค้าได้ทานเพิ่มจนเกิดปัญหาเอง ซึ่งเป็นการโยนความผิดให้ลูกค้าอย่างน่าละอายที่สุด

ในความเป็นจริง ถ้าพนักงานเพียงบอกว่าไม่รู้ หรือไม่แน่ใจ เราคงไม่นิ่งนอนใจ และเรียกรถพยาบาลได้เร็วขึ้น สุดท้ายโรงแรมอ้างว่าบริเวณที่ลูกค้านั่งไม่มีกล้องวงจรปิด และพนักงานคนดังกล่าวได้ให้ออกแล้ว จึงไม่สามารถสืบสวนได้อีก

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button