ข่าวกีฬา

เปิดสนามแข่ง ไทยลีก เล่นแบบปิดในช่วงสถานการณ์ โควิด-19

สรุปสนามแข่งขันที่จะใช้ในศึก ไทยลีก 2021-22 ในช่วงวิกฤต โควิด-19 ที่จะแข่งขันแบบปิดทั้งหมด 16 ทีม ใช้ 9 สนาม มี 6 สนามของ 5 ทีมที่เป็นเจ้าของอยู่แล้ว ใช้ปกติ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย

1.ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ( บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด )

  1. เขากระโดง สเตเดียม จ.บุรีรัมย์ ( สนามเดิมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด )
  2. สนาม อบจ.ขอนแก่น จ.ขอนแก่น ( ขอนแก่น ยูไนเต็ด )
  3. พิชญ สเตเดียม จ.หนองบัวลำภู ( หนองบัวพิชญ เอฟซี )
  4. สิงห์ สเตเดี้ยม จ.เชียงราย ( สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด )
  5. สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ ( เชียงใหม่ ยูไนเต็ด )

ส่วนอีก 3 สนาม เป็นการขอยืมสนามจาก 3 ทีม ไทยลีก 2 ประกอบด้วย

  1. เขาพลอง สเตเดียม จ.ชัยนาท ( ชัยนาท ฮอร์นบิล )
  2. สนามกีฬากลาง จ.ตราด ( ตราด เอฟซี )
  3. ทะเลหลวง สเตเดียม จ.สุโขทัย ( สุโขทัย เอฟซี )

ส่วนอีก 11 ทีมที่ต้องไปใช้สนามเหย้าสำรองเพราะอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม และปฏิบัติตามมาตรการ โควิด-19 ในเดือน ก.ย.64 ประกอบด้วย

  1. นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไปใช้ เขากระโดง สเตเดียม จ.บุรีรัมย์
  2. พีที ประจวบ เอฟซี ไปใช้ เขากระโดง สเตเดียม จ.บุรีรัมย์
  3. เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปใช้ เขาพลอง สเตเดียม จ.ชัยนาท
  4. สุพรรณบุรี เอฟซี ไปใช้ เขากระโดง สเตเดียม จ.บุรีรัมย์
  5. ราชบุรี มิตรผล ไปเยือนก่อนทั้ง 4 เกมในเดือน ก.ย.64
  6. ทรู แบงค็อก ไปใช้ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่
  7. การท่าเรือ เอฟซี ไปใช้ ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์
  8. โปลิศ เทโร เอฟซี ไปใช้ เขาพลอง สเตเดียม จ.ชัยนาท
  9. ชลบุรี เอฟซี ไปใช้ สนามกีฬากลาง จ.ตราด
  10. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไปใช้ พิชญ สเตเดียม จ.หนองบัวลำภู
  11. สมุทรปราการ ซิตี้ ไปใช้ เขาพลอง สเตเดียม จ.ชัยนาท

เช็คเลย โปรแกรม นัดแรก ไทยลีก 1 และ 2 พร้อมปรับสนามแข่ง

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ : Thai League Official

 

Fame United

นักเขียนข่าวกีฬา เชี่ยวชาญข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ผลบอล พรีวิวก่อนเกมไฮไลท์ฟุตบอล ข้อมูลเชิงลึก ข่าวการซื้อขาย รวมทั้งกีฬาต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั่วทุกมุมโลก ด้วยประสบการณ์ทำงานกับสำนักข่าวกีฬาอันดับ 1 มาหลายปี ข้อมูลและข่าวด่วนต่างๆ จึงนำเสนอได้อย่างกระชับและรวดเร็วทันท่วงที ช่องทางติดต่อ fame_wasa@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button