ศบค. แถลงย้ำ ยกระดับมาตรการคุมเข้มพื้นที่ ล็อกดาวน์ 13 จังหวัด เริ่มพรุ่งนี้
มาตรการ ล็อกดาวน์ 13จังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม ศบค.ย้ำ ยกระดับมาตรการเข้มงวด ติดตามผลหลังบังคับใช้ 7 วัน ยอดไม่ลดอาจต้องยกระดับเพิ่ม
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ย้ำถึง มาตรการควบคุมพื้นที่ ล็อกดาวน์ล่าสุด 13 จังหวัด ระหว่างการแถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 19 ก.ค.64 ที่ผ่านมา โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึง มาตรการนี้เป็นข้อสรุปสาระสำคัญจากที่ประชุม ศปก.ศบค. ชุดที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการปฏฺิบัติการ
รายละเอียดของมาตรการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 3 จังหวัด รวมเป็น 13 จังหวัด
ระบุเป็น “มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด” ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ให้งดภารกิจที่ต้องออกเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น นอกจากเคอร์ฟิวแล้ว ในช่วงเวลากลางวันขอให้ทุกคนงดการเดินทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ในช่วงเวลาระหว่างวัน ในพื้นที่ 13 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ บอกว่าจะมีความยุ่งยากในการเดินทางข้ามพื้นที่ใน 14 วันนี้ (20 ก.ค. – 2 ส.ค.64 )
โดยในมาตรการที่ประกาศออกมานั้น สำหรับประชาชน จะเป็นการกำหนด “ข้อห้าม” และ “ข้อจำกัด” ในมาตรการที่เรียกว่า “ล็อกดาวน์” พื้นที่ใน 13 จังหวัด
สรุปข้อกำหนด ฉบับที่ 28
- ห้ามออกนอกเคหสถาน 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน ยกเว้นกรณีของผู้ที่ได้รับอนุญาต
- เงื่อนไขการเดินทาง ตั้งจุดตรวจคัดกรอง การเดินทาง เฉพาเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด
โดยจะมีการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด ในเส้นทาง เข้าออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด เน้นการเดินทางไปยังพื้นที่อื่น - ขนส่งสาธารณะ จำกัจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสาร โดยพิจารณาให้บริการเพียงพอต่อความจำเป็น โดยจะมีผลบังคับเริ่ม 21 ก.ค.เป็นต้นไป
- การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะเปิดบริการได้ถึง 20.00 น. ห้ามบริโภคในร้าน เช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด ที่ให้เปิดบริการถึง 2 ทุ่ม เช่นเดียวกัน
ขณะที่ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาเก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ พื้นที่ซึ่งจัดให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนและบริการทางการแพทย์ สาธารณสุขอื่นของรัฐ
- โรงแรม เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมนา หรือจัดเลี้ยง
- โรงเรียน สถาบันการศึกษาหรือฝึกอบรม และสถานศึกษาต่างๆ ให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์ โดยปฏิบัติตามมาตรการที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
กิจการที่สามารถเปิดได้ตามความจำเป็นและต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
โรงพยาบาล สถานพยาบาล ร้านขายยา-เวชภัณฑ์ ร้านค้าทั่วไป-ร้านค้าสินค้าจำเป็น โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์, การเงิน, ธนาคาร, ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจการสื่อสาร คมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ก่อสร้าง สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั้มน้ำมัน ปั้มแก๊ส บริการส่งสินค้า-อาหารตามสั่ง
มาตรการเหล่านี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.64 นี้ เป็นต้นไป บังคับใช้ระยะแรก เป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 2 ส.ค.64 จะมีการประเมินผลในช่วง 7 วัน เมื่อครบ 14 วัน จะประเมินเป็นทางการอีกครั้ง
หากในช่วง 7 วันแรก ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ก็จะมีการปรับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีก
ประกาศครั้งนี้ จะเป็นมาตรการที่เข้มงวดกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการ “ล็อกดาวน์” จึงจะเน้นย้ำให้ประชาชนอยู่ในบ้าน-ที่พักเป็นหลัก ไม่เดินทางโดยไม่จำเป็น
สำหรับบุคคลและกิจกรรม ที่ได้รับการยกเว้นเรื่อง การงดออกนอกเคหสถาน 6 กลุ่ม ได้แก่
- เจ้าหน้าทางทางด้านการสาธารณสุข
- การขนส่ง เพื่อประโยชน์ด้านอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมัน เชื้อเพลิง ไปรษณีย์ พัสดุ สิ่งพิมพ์ สินค้าเพื่อส่งออก นำเข้า
- การขนย้ายประชาชน
- การให้บริการประชาชน
- การประกอบอาชีพจำเป็น ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้
- อื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะรายของเจ้าหน้าที่
“13 จังหวัดนี้ ห้ามออกนอกเคหสถาน work from home 100% ถ้าจำเป็นต้องเดินทางจะต้องมี เอกสาร คิวอาร์โค้ด แสกน ยิบย่อยขึ้นมา ตรงนี้เป็นความไม่สะวดกที่จะต้องเกิดขึ้น”
“และที่สำคัญที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เรื่อง คือ ทาง ศบค. ได้มอบให้จังหวัดแต่ละจังหวัด ไปออกประกาศข้อกำหนดแต่ละจังหวัดของตัวเอง ให้สอดคล้องและเข้มข้นมากขึ้น”
“มีคำถามกับผมมาเหลือเกินนะครับว่า สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง สถานที่สวนสาธรณะ หรืออะไรต่างๆเหล่านี้ จะเกิดขึ้นแต่ละจังหวัดเป็นอะไรอย่างไร”
“ท่านรอการประกาศของแต่ละจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง ก็จะเป็นภาพของแต่ละจังหวัดไป ซึ่งตรงนี้ อย่าง กทม.ก็อาจจะประกาศออกมา สิ่งที่จะกระทบ ทำให้ต้องปรับ หรือ เรียนรู้ ทางจังหวัดจะไปกระชับและก็ทำให้การเข้มงวดสูงสุดเกิดขึ้นในจังหวัดนั้นๆ เพื่อการควบคุมโรคเป็นผลสำคัญ”
“นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.64)” นพ.ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. กล่าว
อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19
- ศบค. เล็ง ยกระดับมาตรการโควิด อีกรอบ หลังเจอคนแหกกฎเพียบ
- เช็กได้แล้ว สรุปมาตรการล็อกดาวน์โควิด 13 จังหวัดสีแดงเข้มมีอะไรบ้าง
- ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก ปรับเวลาปิด 2ทุ่ม รับมาตรการโควิด ล็อกดาวน์ล่าสุด
- ล็อกดาวน์ล่าสุด เช็กคำสั่งยกระดับควบคุมเที่ยวใหม่ มีอะไรบ้าง