ชัยภูมิ พบผู้ป่วย โควิด-19 อีก 2 ราย อีกรายรอผล
ผู้ว่าจังหวัด ชัยภูมิ เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรค โควิด-19 อีก 2 ราย มีประวัติเดินทางซื้อของที่สมุทรสาคร ส่วนอีกรายรอผลตรวจ
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แถลงว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายจังหวัด ณ ตอนนี้ที่จังหวัดชัยภูมิ มีการยืนยันว่าพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว สอง ราย เป็นแม่ค้า วัย 41 ปี และลูกสาววัย 15 ปี
ส่วนอีกรายเป็นพ่อค้า อยู่ระหว่างการรอผลตรวจจากส่วนกลาง ทั้งหมดมีการเดินทางไปซื้อของที่ตลาดในสมุทรสาคร
ขณะนี้ ทางทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ไปติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ รวมถึงสั่งปิดตลาด ล้างตลาด และแจ้งไปยังจังหวัดข้างเคียง คือ ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เด็กวัย 15 ปี เรียนอยู่
ด้าน นายแพทย์ดุสิต ขำชัยภูมิ รอง นพ.สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายสอบสวนโรค มีทั้งหมด 3 ราย ซึ่ง 2 ราย มีผลยืนยันแล้วว่า ป่วยโควิด-19
รายแรก เป็นหญิงวัย 41 ปี ที่ อ.ภูเขียว
อาชีพแม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดสด ไม่มีอาการ ไปรับอาหารทะเลจากตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร เดินทางไปสมุทรสาครครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.63 จากนั้นนำอาหารกลับมาขายยัง ตลาดเทศบาลภูเขียว, ตลาดนัดบ้านหนองคัน และตลาดสดมัญจาคีรี ซึ่งทั้ง 3 แห่ง ถือเป็นพื้นที่เสี่ยง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงไปจัดการ และยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งเคสนี้เป็นความรับผิดชอบของแม่ค้า ที่เดินทางไปขอรับการตรวจ กระทั่งพบว่าติดเชื้อ
รายที่ 2 เป็นลูกสาวของผู้ป่วยรายแรก อายุ 15 ปี อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก เริ่มมีอาการ 16 ธ.ค. แต่ไม่รุนแรง มีน้ำมูกไหล ไม่ได้กลิ่น ได้รับการตรวจเมื่อ 22 ธ.ค.63 พบว่า ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งคนไข้ทั้ง 2 คนแข็งแรงดี และรักษาอยู่ที่ รพ.ภูเขียว
ทั้งนี้ นอกจากที่เด็กจะไปช่วยแม่ขายของที่ตลาดนัดบ้านหนองคันแล้ว ยังไปเรียนหนังสือที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีชุมแพ อ.ชุมแพ ขอนแก่น ไปกลับทุกวันด้วยการโดยสารรถสองแถว ซึ่งมีเพื่อนร่วมชั้น เรียนหนังสือด้วยกัน 53 คน ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับ แม่ลูกทั้ง 2 คน รวม 88 ราย โดยเป็นญาติ, เพื่อนร่วมชั้นเรียน และผู้ที่อยู่บนรถโดยสารคันเดียวกัน
รายที่ 3 เคสนี้ยังรอการยืนยันผลจากส่วนกลาง เป็นชาย อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ใน อ.เมือง เป็นคนค้าส่งอาหารทะเล เบื้องต้นจะได้นำไปส่งที่อุดรธานี
ส่วนผู้ที่ไปเดินตลาด ไม่ต้องตกใจ จะมีการประกาศให้ไปที่โรงพยาบาล เพื่อสอบประวัติ ว่าเข้าเกณฑ์ความเสี่ยงสูงหรือไม่ เพื่อจะให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อต่อไป อยากให้มั่นใจว่า มีระบบที่ควบคุมโรคไม่ให้กระจายได้