บิ๊กโจ๊ก พบตำรวจ สน.บางรัก ยื่นเอกสารโครงการไบโอเมตริกซ์
บิ๊กโจ๊ก พบตำรวจ สน.บางรัก ยื่นเอกสารโครงการไบโอเมตริกซ์
จากกรณีคนร้ายบุกยิงรถยนต์ของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล แต่เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในรถจึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ โดยเหตุได้เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก ก่อนคนร้ายจะขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีดำ หลบหนีไปโดยมุ่งหน้าแยกสามย่าน
ล่าสุดความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่สน.บางรัก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.สุคุณ พรหมมายน รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก สอบปากคำ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีมีคนมองมูลเหตุจากเรื่องความขัดแย้งจากโครงการไบโอเมตริกซ์ เมื่อครั้งที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เซ็นหนังสือ 2 ฉบับ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ยกเลิกโครงการดังกล่าวเนื่องจากล่าช้าและส่งงานไม่ทัน
ตนได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการไบโอเมตริกซ์มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ยืนยันว่าตนไม่ได้สร้างภาพ สร้างสถานการณ์ เพราะไม่มีมีมูลเหตุจูงใจว่าจะทำไปเพื่ออะไร เพราะรถก็เสียหาย และตนเป็นผู้ถูกกระทำ ขณะเดียวกัน คนวงในก็ต้องรู้ว่าใครยิง โดยก่อนนี้มีคนประสานมานัดพูดคุยกับผู้ใหญ่หลายท่าน หลายครั้ง แต่ตนไม่ได้ไป ตนเอง ยืนยันว่าทุกขั้นตอนที่ตนดำเนินการสามารถตรวจสอบได้
กล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลที่ต้องสงสัยนั้น ตนพอมีข้อมูลแต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร หากไม่ใช่คนมีอำนาจก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ ถ้าตนเป็นผบ.ตร.และจับคนร้ายไม่ได้ก็ต้องออกมารับผิดชอบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ทั้งยังเกิดในใจกลางเมืองด้วย เมื่อตนยังเป็นตำรวจ ยังสามารถตามจับกุมคนร้ายคดีเชอรี่ฆ่าหั่นศพ ที่หลบหนีไปประเทศกัมพูชาได้ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่มาเกิดในช่วงนี้ คาดว่าใกล้ถึงเวลาที่ป.ป.ช.จะเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องกับโครงการไบโอเมตริกซ์ ได้มีการประสานมายังตนบ้าง แต่ยังไม่ระบุวัน ซึ่งพยานปากอื่นที่ไม่ได้เซ็นต์รับ คงไม่เสียขวัญเพราะถูกย้ายหมดแล้ว ยืนยันว่าการออกมาในครั้งนี้ ไม่ได้ท้าชนใคร เพราะต้องการให้ความจริงปรากฎ เนื่องจากโครงการไบโอเมตริกซ์เป็นสมบัติชาติ และมีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:khaosod.co.th